ลัยละตุ้ลก็อดร์  คือ หัวใจแห่งเดือนรอมฎอน

ค่ำคืนแห่งคนหลงทางที่ได้รับโอกาส
       
นับเป็นความเมตตาของพระองค์ที่ให้มนุษย์ได้เดินทางสู่ค่ำคืนลัยละตุลก็อดร์  ค่ำคืนแห่งอานุภาพเป็นค่ำคืนที่พิเศษ เป็นค่ำคืนที่ให้โอกาสเราได้เชื่อมความสัมพันธ์กับพระองค์  ลัยละตุลก็อดร์คือหัวใจของเดือนรอมฎอน แล้วอะไรคือหัวใจของลัยละตุ้ลก็อดร์กับความยิ่งใหญ่ของค่ำคืนนี้....... ก็เนื่องจากคัมภีร์อัลกุรอานได้ถูกประทานลงมาในค่ำคืนนี้จึงทำให้ลัยละตุลก็อดร์เป็นค่ำคืนที่สาส์นอันสูงส่งและสมบูรณ์ที่สุดได้ถูกส่งลงมาให้กับมวลมนุษยชาติ  แล้วอะไรที่เป้าหมายของคัมภีร์อัลกุรอาน?   
      
หากมองดูบริบทต่างๆของคัมภีร์อัลกุรอานแล้วเราจะได้เห็นว่า  ส่วนหนึ่งอยู่ในเรื่องของความเชื่อความศรัทธา  เรื่องการสร้างโลก  เรื่องเอกานุภาพ เรื่องเกี่ยวกับศาสนทูตของพระองค์  เรื่องเกี่ยวกับวันสิ้นโลก  เรื่องของโลกหน้า  เรื่องสวรรค์  เรื่องนรก  อีกส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของหลักปฏิบัติ  คำสั่งใช้  คำสั่งห้าม หลายโองการเป็นเรื่องเล่า หลายโองการเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับจริยศาสตร์  แต่ทั้งหมดนี้สิ่งที่เป็นเป้าหมายที่สำคัญสูงสุดของคัมภีร์อัลกุรอานคือการฮิดายะฮ์ หรือการชี้นำมนุษยชาติ(ซูเราะฮ์อัล-บาก่อเราะฮ์ /185) เป็นการชี้นำที่ไปสู่ความผาสุกที่แท้จริง ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
      
 ลัยละตุลก็อดร์ จะกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือค่ำคืนแห่งคนหลงทางที่ได้รับโอกาส  โดยที่ได้เห็นรัศมีของพระองค์ในค่ำคืนนี้แล้วอยากจะหวนกลับมาสู่หนทางของพระองค์  คือค่ำคืนของการตามหาหัวใจที่เคยผูกพัน ที่ในบางครั้งคราวถูกพาให้หันเหออกจากพระองค์ด้วยกับนัฟซูหรือชัยฏอนให้กลับมาเดินสู่เส้นทางเดิม  หรือเป็นค่ำคืนที่มีการวิงวอนต่อพระองค์ให้ชุบชีวิตหัวใจที่ตายแล้วกลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง ซึ่งบทดุอาอ์  บทขอพร  บทภาวนาและอามั้ลต่างๆที่มีในค่ำคืนนี้สะท้อนให้เห็นถึงเรื่องนี้  เราเฝ้าเพียรขอให้พระองค์ทรงปลุกให้เราตื่น  ปลุกความรักของเราที่เคยมีต่อพระองค์  ที่วันนี้มันหลับใหลให้กลับมาอยู่ในหนทางเพื่อใหัเราประสบความสำเร็จในชีวิต เราควรใคร่ครวญด้วยว่าทั้งหมดที่เราจะกระทำในค่ำคืนนี้เพื่ออะไร?   เราเปิดคัมภีร์อัลกุรอานเพื่ออะไร?  เรานมาซมุสตะฮับเพื่ออะไร?  เราเอ่ยนามผู้บริสุทธิ์เพื่ออะไร?  เราขอดุอาอ์เพื่ออะไร?  เรานำคัมภีร์อัลกุรอานทูนศีรษะเพื่ออะไร?  เราอดหลับอดนอนเพื่ออะไร?   ทั้งหมดนั้นก็เพื่อให้เรารู้ว่าเราต้องกลับมาเดินในหนทางของพระองค์ซึ่งก็คือหนทางที่ได้รับคำชี้นำมาจากคัมภีร์อัลกุรอาน
   
 เพราะเป้าหมายของคัมภีร์อัลกุรอานมาเพื่อชี้นำมนุษยชาติ  เมื่อความเชื่อทั้งหมดของเราอยู่ในคัมภีร์อัลกุรอาน   วิถีชีวิตของเราทั้งหมดอยู่ตามครรลองของคัมภีร์อัลกุรอาน   การได้รับประโยชน์อันแท้จริงจากคัมภีร์อัลกุรอานจึงมิใช่แค่การเปิดแล้วอ่านให้ผ่านไป   คัมภีร์อัลกุรอานถูกส่งมาเพื่อชี้นำเรา  ให้เราเข้าใจความหมายและเพื่อยกระดับความเป็นมนุษย์ของเราให้สูงยิ่งขึ้น    การที่เราต้องเอ่ยนามบรรดาผู้บริสุทธิ์ตั้งแต่ท่านศาสดา(ศ็อล)จนถึงอิมามมะฮ์ดี(อ.) เพราะต้องการที่จะสื่อว่า  ในการที่เราจะเข้าถึงคัมภีร์อัลกุรอานนั้นจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะก้าวข้ามพวกท่านเหล่านี้  เพราะคัมภีร์อัลกุรอานคือสิ่งที่สูงส่ง คือสาส์นของพระผู้เป็นเจ้า  จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีผู้อธิบาย
    
 ท่านศาสดา(ศ็อล)เองก็ได้ฝากฝังไว้กับประชาชาติอิสลามในสองสิ่งด้วยกันคือคัมภีร์อัลกุรอานและบรรดาอะฮ์ลุลบัยต์ของท่าน  โดยที่ทั้งสองสิ่งนี้จะไม่แยกออกจากกัน  บรรดาอะฮ์ลุลบัยต์เป็นทายาทที่แท้จริงของท่านศาสดา(ศ็อล)พวกท่านมาก็มาเพื่อชี้นำ และยังมาเพื่ออรรถาธิบายแก่นแท้ของคัมภีร์อัลกุรอาน เพราะสาส์นอันสูงส่งนี้ไม่สามารถที่จะเข้าถึงได้โดยปราศจากความบริสุทธิ์ ดังนั้นหนึ่งในเป้าหมายของค่ำคืนลัยละตุ้ลก็อดร์ก็เพื่อให้คนที่หลงทางได้เดินทางกลับสู่หนทางของพระองค์ด้วยกับการชี้นำจากคัมภีร์อัลกุรอาน ซึ่งถือเป็นความเมตตาของพระองค์ที่มอบให้กับปวงบ่าวที่หลงทาง ฉะนั้นใครที่ไม่ยอมไขว่คว้าโอกาสในค่ำคืนนี้ก็ถือว่าขาดทุนอย่างมากมายยิ่ง...
                 

บทความโดย เชคกอซิม อัสการี