เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

บทบาทของท่านหญิงซัยนับ บินติ อะลี ในการยืนหยัดและต่อสู้เพื่ออิสลาม

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

 

บทบาทของท่านหญิงซัยนับ บินติ อะลี ในการยืนหยัดและต่อสู้เพื่ออิสลาม

 

ท่านหญิงซัยนับกับวิลายะฮ์

 

ท่านหญิงซัยนับ (ซ) ได้แนะนำท่านอิมามฮุเซน (อ.)ในฐานะผู้นำประชาชาติอิสลามที่แท้จริง ต่อชาวเมืองกูฟะฮฺพร้อมกับได้ทำการประณามการกระทำของพวกเขาว่าเป็นตราบาป และเป็นความอัปยศอดสูยิ่งนักที่พวกเขาได้เข่นฆ่าลูกหลานของท่านศาสดา (ศ็อลฯ) แล้วพวกเขาจะชำระล้างความสะอาดได้อย่างไรกันเล่า?

 

 

 

ท่านหญิงซัยนับ เป็นผู้ดูแลเด็กกำพร้า

 

๑. ท่านหญิงให้การดูแลในฐานะของบิดา มารดาในเวลาเดียวกัน

 

๒. ท่านหญิงได้ทำการปกป้องสิทธิของเด็กกำพร้าทั้งหลาย

 

๓. ท่านหญิงได้ปลอบประโลมและให้กำลังใจต่อบรรดาเด็กๆ

 

ท่านหญิงซัยนับมิได้เป็นเครื่องประดับ และเป็นผู้ช่วยเหลือศาสนาอันทรงเกียรติเพียงอย่างเดียว ทว่าท่านยังได้ทำหน้าที่เป็นผู้นำกองคาราวาน ขณะถูกจับเป็นเชลยร่วมกับเด็กกำพร้าทั้งหลายอีกด้วย

 

ท่านหญิงซัยนับ คือแบบอย่างแห่งความดีงามทั้งหลาย

 

ท่านหญิงซัยนับ คือ ผู้ที่ทำนมาซ ศอลาตุลลัยล์ อย่างเป็นนิจศีล ดังที่ท่านอิมามฮุเซน (อ.) กล่าวว่า

"โอ้น้องสาวสุดที่รักของพี่ อย่าลืมขอดุอาอฺให้พี่ขณะที่เธอทำนมาซ ศอลาตุลลัยล์"

ท่านหญิงยังเป็นผู้ที่ทำอิบาดะฮฺอย่างมากมาย ซึ่งท่านอิมามซัยนุลอาบิดีน (อ.) กล่าวว่า

"อาของฉันได้ทำนมาซทั้งที่เป็นวาญิบและมุสตะฮับตลอดเส้นทางจากกูฟะฮฺจนถึงเมืองชาม"

อีกทั้งท่านหญิงซัยนับยอมจำนนและพึงพอใจในกอฎอ(ชะตาลิขิตแห่งพระเจ้า) 

ท่านหญิงได้กล่าวกับเรือนร่างที่ไร้วิญญาณและศรีษะของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ว่า

“โอ้อัลลอฮฺ โปรดตอบรับการพลี (กุรบาน) นี้จากพวกเราด้วยเถิด”

 

ท่านหญิงซัยนับกับการเสียสละ ดังที่ท่านอิมามซัจญาด (อ.) กล่าวว่า

อาของฉันได้แบ่งอาหารของท่านแก่เด็กๆ เสมอระหว่างถูกจับเป็นเชลย”

ความกล้าหาญชาญชัยของท่านหญิงซัยนับ ซึ่งท่านหญิงซัยนับกล่าวว่า

โอ้เจ้ายะซีด เจ้านั้นเป็นบ่าวที่ทรามและสถุลที่สุด ความเลวของเจ้านั้นมหาศาลไม่อาจหาสิ่งใดเปรียบได้ ข้าเป็นใครและเจ้าเป็นใคร เจ้าลืมไปแล้วหรือว่า ข้าคือบุตรีของท่านหญิ่งฟาฏิมะฮฺ ผู้เป็นบุตรีของท่านศาสดา (ศ็อลฯ) ผู้ทรงเกียรติ ส่วนเจ้าคือลูกของนางฮินด์ ผู้กินตับสด”

 

ท่านหญิงซัยนับเป็นผู้ที่รักษาความบริสุทธิ์ ขณะที่ท่านหญิงได้เข้าไปในหอประชุมของยะซีด เธอได้เอามือปิดใบหน้าของเธอ เพราะพวกมันได้กระชากผ้าคลุมศรีษะของเธอออก”

การมีความอดทนและการมีขันติของท่านหญิงซัยนับ เธอคือสตรีผู้เป็นมารดาของสองชะฮีดภายในหนึ่งวัน สตรีผู้พลีบุตรชายสุดที่รักดั่งแก้วตาดวงใจ สตรีผู้อดกลั้นต่อการสูญเสียคนรักและผู้ใกล้ชิด ๗๒ คนภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งวัน

 

 

แบบฉบับแห่งคุณธรรมและจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ของท่านหญิงซัยนับ (ซ)

 

ท่านหญิงซัยนับ ได้รับการสืบทอดคุณสมบัติทุกประการมาจากมารดาของท่าน คือท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ ซะฮ์รอ (ซ) สุนทรพจน์ของท่านมีแบบฉบับมาจากบิดา ความอดทนอดกลั้นมาจากพี่ชายของท่านคืออิมามฮาซัน

 

ส่วนความกล้าหาญและความสามารถในการควบคุมตนเองมาจากอิมามฮูเซน ท่านเป็นหลานสาวของท่านศาสดา เป็นลูกของอิมาม เป็นน้องสาวของอิมาม และเป็นอาของอิมาม

 

สายเลือดของการเป็นศาสดาและอิมามรวมอยู่ในตัวของท่าน นอกจากมารดาแล้วไม่มีใครเสมอเหมือนท่านเลย

 

การดำเนินชีวิตของท่าน เป็นแบบฉบับแห่งคุณธรรม ที่ปรากฏอยู่ในตัวท่านโดยอนุมัติของพระผู้เป็นเจ้า

 

ท่านเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติเพรียบพร้อมสมบูรณ์ทุกด้านอย่างที่ปุถุชนธรรมดาไม่สามารถจะเป็นได้เลย พลังและความบริสุทธิ์ทางด้านจิตวิญญาณของท่านเป็นที่น่าประหลาดใจ แม้ในด้านความรู้ที่สูงสุดและในทุกๆด้าน ท่านปฏิบัติตามหลักการและมาตราฐานที่มารดาของท่านได้วางไว้ เป็นแม่แบบแห่งการมีคุณธรรมและกล้าหาญสำหรับผู้หญิงทุกคน นับเป็นการสมควรที่เราจะพยายามและดำเนินรอยตามแบบฉบับของท่านเมื่อใดก็ตามที่มีโอกาส

 

ด้วยพระเมตตาของพระผู้เป็นเจ้า ท่านหญิงได้พัฒนาตนเองจนถึงขั้นจุดสูงสุด จนท่านไม่รู้จักว่า ความกลัวคืออะไร? ทำให้มาถึงจุดที่สมบูรณ์ที่สุด ซึ่งอาจจะเปรียบได้กับตำแหน่งผู้ที่ใกล้ชิดกับพระผู้เป็นเจ้า (วลียุลลอฮ์) ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ท่านเป็นเช่นนั้น พระผู้เป็นเจ้าทรงประสงค์ให้ท่านพิสูจน์ตัวเองให้โลกรับรู้จากเหตุการณ์ที่กัรบะลา ถึงคุณสมบัติที่หาได้ยากยิ่ง ซึ่งท่านก็ทำให้ชาวโลกได้ประจักษ์ และในการที่มอบบุตรชายสุดที่รักทั้งสองเป็นพลีเพื่อช่วยเหลืออิมามฮูเซน ท่านก็ไม่เคยคิดเป็นอื่นใด

 

นอกจากการดำรงไว้ซึ่งอิสลาม ตามแนวทางที่ท่านศาสดาวางไว้ ท่านแสดงความรับผิดชอบตามหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายสำหรับท่านแต่ผู้เดียวจากพระผู้ทรงสร้าง และได้ทำตามพระประสงค์อย่างครบถ้วนสมบูรณ์

 

มารดาของมูซา (โมเสส) ไม่สามารถทนต่อการพรากจากลูกน้อยของเธอได้ แต่สำหรับท่านหญิงซัยนับต้องพลัดพรากจากลูกชายสุดที่รักทั้งสองจากการถูกสังหาร และยังต้องเห็นสภาพของสมาชิกในครอบครัวของท่านถึง ๑๗ ชีวิต ต้องถูกตัดขาดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ศีรษะถูกเสียบไว้ที่ปลายหอก

 

ท่านศาสดาได้รวมท่านหญิงไว้ในครอบครัววงศ์วานของท่าน

 

(อะฮ์ลุลบัยต์) ท่านหญิงสมควรที่จะได้รับสิทธิในคำกล่าวอำนวยพร (ซอละวาต) ที่เรากล่าวหลังการนมาซ เพราะท่านหญิงคือส่วนหนึ่งของท่านศาสดาและเป็นทายาทที่ใกล้ชิดของท่าน

 

อ้างอิงจากเว็บไซต์เลิฟฮุเซนและคัดลอกจากหนังสือ ซัยนับ วีรสตรีอิสลาม

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม