การไว้ทุกข์ในวันอัรบะอีนถือเป็น "บิดอะฮ์" หรือเป็น "แบบแผนซุนนะฮทางศาสนา"?
การไว้ทุกข์ในวันอัรบะอีนถือเป็น "บิดอะฮ์" หรือเป็น "แบบแผนซุนนะฮทางศาสนา"?
หนึ่งในคำถามที่มักถูกหยิบยกขึ้นมาในช่วงใกล้วันอัรบะอีนของท่านอิมามฮุเซน (อ.) ก็คือ "การจัดพิธีไว้อาลัยในวันอัรบะอีน ถือเป็นบิดอะฮ์ (การดัดแปลงศาสนา) หรือเป็นซุนนะฮ์ (แนวทางที่มีรากฐานในศาสนาอิสลาม)?"
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การเดินทางแสวงบุญและการเดินขบวนในวันอัรบะอีนได้กลายเป็นกิจกรรมที่ยิ่งใหญ่และมีผู้เข้าร่วมอย่างมหาศาล ซึ่งรูปแบบเช่นนี้ในอดีตอาจไม่ได้ปรากฏชัดเจนเช่นในปัจจุบัน
จึงเกิดคำถามว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นเรื่องใหม่ที่ไม่มีรากฐานทางศาสนาใช่หรือไม่?
คำตอบต่อข้อสงสัยคงจะไม่ยากเกินที่ปํญญาของสามัญชนทั่วไปจะเข้าใจ
ในการตอบคำถามนี้ สิ่งสำคัญคือต้องทำความเข้าใจความหมายของคำว่า "บิดอะฮ์" อย่างถูกต้องเสียก่อน
นักวิชาการศาสนาได้อธิบายว่า..
"บิดอะฮ์" คือ สิ่งที่ไม่มีรากฐานหรือคำแนะนำเฉพาะในหลักคำสอนของศาสนา และไม่สามารถจัดให้อยู่ในขอบเขตของศาสนาได้
แต่หากกิจกรรมนั้นอยู่ภายใต้หลักการทั่วไปทางศาสนา เช่น "การยกย่องและให้เกียรติต่อสัญลักษณ์ทางศาสนา (تعظیم شعائر)"
ซึ่งเป็นแนวทางที่ศาสนาอนุมัติและส่งเสริม ภายใต้กรอบเงื่อนไขทางศาสนา
กิจกรรมเหล่านั้นย่อมไม่อาจถือเป็นบิดอะฮ์ได้
กล่าวโดยสรุปคือ: หากพิธีกรรมหรือกิจกรรมในวันอัรบะอีนเช่น การเดินขบวนรำลึก การไว้อาลัย การจัดเลี้ยงอาหาร หรือการแสดงความเคารพต่อท่านอิมามฮุเซน (อ.) ดำเนินไปตามกรอบแห่งหลักการศาสนา
สิ่งเหล่านี้จึงไม่ใช่การดัดแปลงศาสนา แต่กลับเป็นการแสดงออกซึ่ง ความศรัทธาและการยึดมั่นในสัญลักษณ์ทางศาสนา
ซึ่งได้รับการยอมรับและส่งเสริมในอิสลาม
#กรอบทั่วไปทางศาสนาที่เกี่ยวข้องกับอัรบะอีน:
ในศาสนาอิสลาม มีกฎเกณฑ์และแนวทางทั่วไปหลายประการที่สามารถใช้เป็นฐานรองรับกิจกรรมต่าง ๆ แม้จะไม่มีระบุแบบเฉพาะเจาะจงในตัวบทศาสนาก็ตาม ตัวอย่างเช่น:
1- กรอบทั่วไปเกี่ยวกับการไว้อาลัยต่อท่านอิมามฮุเซน (อ.)
มีรายงานฮะดีษหลายบทที่กล่าวอย่างชัดเจนว่า
“ไม่ว่าการแสดงออกใดที่เป็นสัญลักษณ์ของการไว้อาลัย ก็สามารถกระทำเพื่อรำลึกถึงท่านอิมามฮุเซน (อ.) ได้” ดังนั้น กิจกรรมที่แสดงความเศร้าโศก อาลัย หรือการจัดพิธีกรรมเพื่อรำลึกถึงท่าน ถือว่าอยู่ในขอบเขตที่ศาสนาให้การยอมรับ
2-กรอบทั่วไปเกี่ยวกับความรักและความจงรักภักดีต่ออะฮ์ลุลบัยต์ (อ.)
แม้กิจกรรมบางอย่างจะไม่มีรายงานเฉพาะเจาะจงในฮะดีษ แต่หากกิจกรรมนั้น อยู่ในแนวทางหรือหลักการทั่วไปของศาสนา เช่น การแสดงความรัก ความเคารพต่ออะฮ์ลุลบัยต์ (อ.) ก็ไม่ถือว่าเป็น “บิดอะฮ์”
แต่เป็นส่วนหนึ่งในแนวทางของศาสนา ที่ส่งเสริมความรักต่อครอบครัวของศาสดา (ศ)
#เกี่ยวกับการเดินทางแสวงบุญในวันอัรบะอีน:
ในแหล่งรายงานฮะดีษของเรา มีบันทึกไว้เกี่ยวกับการเดินทางไปยังสถานที่ฝังศพของท่านอิมามฮุเซน (อ.) โดยเฉพาะในช่วงวันอัรบะอีน
อิมามซอดิก (อ.) กล่าวว่า: "สำหรับทุกก้าวที่ผู้ศรัทธาย่างเดินไปในการซิยาเราะฮ์ (เยี่ยมเยือน) ท่านอิมามฮุเซน (อ.) จะได้รับผลบุญหนึ่ง และบาปหนึ่งจะถูกลบล้างออก"
ด้วยเหตุนี้ เมื่อกิจกรรมการเดินทางไปรำลึกถึงท่านอิมามฮุเซน (อ.) โดยเฉพาะในวันอัรบะอีน ได้รับการกล่าวถึงในฮะดีษ และเนื้อหาทั้งหมดของกิจกรรมนี้ ยังเป็นการสื่อถึง วัฒนธรรมแห่งการตื่นรู้และอัตลักษณ์ของชีอะฮ์ ที่สอดคล้องกับเป้าหมายแห่งการลุกขึ้นสู้ของอิมามฮุเซน (อ.) จึงไม่อาจถือว่าเป็น "บิดอะฮ์"
#แต่ทุกกิจกรรมใหม่ใช่จะถูกต้องเสมอหรือไม่?
อย่างไรก็ตาม ต้องเข้าใจให้ชัดเจนว่า
แม้กิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่ง จะไม่ถือเป็นบิดอะฮ์ (เพราะอยู่ภายใต้กรอบทั่วไปของศาสนา) แต่นั่นไม่ได้แปลว่า สิ่งนั้น “ถูกต้อง” เสมอไป
การจะพิจารณาความถูกต้องของกิจกรรมใด ต้องดูว่า สอดคล้องกับหลักคำสอนอื่นในศาสนาหรือไม่
สร้างประโยชน์หรือผลกระทบด้านลบต่อศาสนาหรือผู้ศรัทธาหรือไม่
เช่น: การใช้ดาบฟาดศีรษะ (قمهزنی) แม้จะอ้างว่าเป็นการแสดงออกถึงความรักต่อท่านอิมามฮุเซน (อ.) แต่กิจกรรมนี้
ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย และยังอาจเป็นการสร้างภาพลบที่บิดเบือนศาสนาในสายตาผู้อื่น จึงไม่สอดคล้องกับหลักการโดยรวมของศาสนา และไม่ควรปฏิบัติ
#บทสรุปคือ: สิ่งใหม่ ไม่จำเป็นต้องเป็นบิดอะฮ์ เพียงเพราะเป็นเรื่องใหม่
หากกิจกรรมนั้นอยู่ในกรอบทั่วไปของศาสนา และไม่ขัดแย้งกับหลักศาสนาอื่น
ก็ไม่ถือว่าเป็นบิดอะฮ์
แต่ต้องใช้ วิจารณญาณทางศาสนา พิจารณาความเหมาะสมอย่างรอบด้านเสมอ...
บทความโดย เชคยูซุฟ เพชรกาหรีม

