ไม่มีเหตุการณ์ใดในประวัติศาสตร์มนุษย์ที่จะยิ่งใหญ่และทรงพลังเท่ากับเหตุการณ์อาชูรอ

การเคลื่อนไหวของอิมามฮุเซน (อ.) เป็นมากกว่าการสู้รบเพื่อความถูกต้องบนสนามรบ มันคือบทเรียนของชีวิตและจิตวิญญาณที่สะท้อนถึงความยิ่งใหญ่ของความศักดิ์สิทธิ์ ความกล้าหาญ และความยุติธรรม
������ระยะต่อสู้และเสียสละ
ช่วงเวลานี้เต็มไปด้วยความเข้มข้นและความกล้าหาญอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ อิมามฮุเซน อ. และผู้ร่วมอุดมการณ์ทุกคนยืนหยัดต่อหน้าความอยุติธรรมที่บีบบังคับ พวกท่านเผชิญหน้ากับอำนาจที่โหดร้ายด้วยความกล้าหาญเหนือธรรมดา การเสียสละชีวิตของพวกท่านไม่ได้เป็นเพียงความสูญเสียทางกายภาพ แต่เป็น ประกายแห่งความศักดิ์สิทธิ์ ที่ส่องนำสังคมไปสู่ความยุติธรรมและความถูกต้อง
ทุกหยดน้ำตา ทุกหยาดเลือดที่หลั่งบนผืนดินกัรบะลา คือบทเรียนล้ำค่า สอนให้มนุษย์ตระหนักว่า ศีลธรรม ความยุติธรรม และคุณค่าของชีวิตมิอาจขายเพื่อความสะดวกสบายหรืออำนาจชั่วคราว
������ ระยะเผยแพร่และปลุกจิตสำนึกสังคม
แม้สนามรบจะสิ้นสุดลง แต่แรงบันดาลใจยังดำรงอยู่ในจิตใจของผู้คน ซัยหนับ บินตีอะลี และอิมามซัจญาด อ. คือผู้สืบทอดเปลวไฟแห่งความยุติธรรม พวกเขาปลุกจิตสำนึกสังคม ทำให้ประชาชนเห็นความจริงที่ถูกบิดเบือนโดยฝ่ายยะซีด
คำกล่าวที่โด่งดังว่า
“กัรบะลาอาจจบเพียงกัรบะลา หากไม่มีซัยหนับ”
สะท้อนถึง บทบาทสำคัญของนางในการถ่ายทอดแรงบันดาลใจและอุดมการณ์ของอิมามฮุเซน อ. นางไม่เพียงต่อต้านกลยุทธ์หลอกลวงของฝ่ายยะซีดเท่านั้น แต่ยังปลุกให้ประชาชนตระหนักถึงความจริงแห่งความยุติธรรม และสร้างแรงกระเพื่อมทางจิตวิญญาณที่ก้องกังวานข้ามยุคสมัย
������ อิทธิพลอันยั่งยืนของเหตุการณ์อาชูรอ
การกระทำของซัยหนับและอิมามซัจญาด อ. ทำให้ข้อความและอุดมการณ์ของอิมามฮุเซน อ. ถูกส่งต่อไปยังคนรุ่นใหม่ ความกล้าหาญและความเสียสละของท่านทั้งหลายกลายเป็นแรงบันดาลใจ ไม่เพียงในสังคมมุสลิมเท่านั้น แต่สะท้อนถึงพลังแห่งศักดิ์ศรี ความยุติธรรม และความเข้มแข็งของชาติ
เหตุการณ์อาชูรอจึงไม่ได้เป็นเพียงประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาแล้ว แต่เป็น แรงบันดาลใจที่ยังมีชีวิตในทุกหัวใจที่ใฝ่ดี ทุกหยดน้ำตา ทุกเสียงสะท้อนของความกล้าหาญ คือบทเรียนที่เตือนให้เรารู้จักความยุติธรรม ความศักดิ์สิทธิ์ และคุณค่าของชีวิต
อาชูรอจึงเป็นมากกว่าการต่อสู้ มันคือ พลังแห่งศักดิ์ศรีที่ยิ่งใหญ่และไม่มีวันดับ สู่นำพาสังคมไปสู่ความถูกต้องและความดีงาม

บทความโดย เชคอันศอร เหล็มปาน