ความเมตตาของอิมามฮูเซน (อ.) กับผลตอบแทนของผู้ทรยศ
ความเมตตาของอิมามฮูเซน (อ.) กับผลตอบแทนของผู้ทรยศ
ณ บริเวณอันศักดิ์สิทธิ์ของกะอ์บะฮ์ ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาเพื่อทำการฏอวาฟ หนึ่งในนั้นคือหญิงผู้หนึ่งที่กำลังยกมืออ้อนวอนต่ออัลลอฮ์ ขณะเดียวกัน ชายคนหนึ่งเดินตามหลังเธอและพลั้งเผลอเอามือวางลงบนต้นแขนของหญิงผู้นั้นโดยไม่เหมาะสม และในทันที มือของเขาก็ติดแน่นกับแขนของหญิงผู้นั้นอย่างอัศจรรย์ ราวกับถูกพลังเร้นลับยึดตรึงเอาไว้
เสียงโกลาหลดังขึ้น ผู้คนเริ่มมุงดู จนถึงขั้นที่การฏอวาฟหยุดชะงักไป ชาวเมืองจึงรีบส่งคนไปแจ้งแก่เจ้าผู้ครองนครมักกะฮ์ เมื่อได้รับรายงาน เขาจึงเชิญบรรดานักวิชาการมาเพื่อวินิจฉัย แต่ทุกคนต่างก็จนปัญญา ไม่อาจหาทางแยกมือชายออกจากแขนหญิงได้
แล้วเสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นว่า "ในเมืองนี้ยังมีลูกหลานของท่านศาสดา (ศ.) อยู่นี่นา"
เจ้าผู้ครองนครจึงสั่งให้ไปเชิญท่าน อิมามฮูเซน บิน อะลี (อ.) มาพบในค่ำคืนนั้น
เมื่อท่านอิมามฮูเซน (อ.) มาถึง ท่านหันหน้าไปทางกะอ์บะฮ์ แล้วยกมือขึ้นขอดุอาอ์ต่ออัลลอฮ์ด้วยจิตใจที่แน่วแน่ และภายหลังไม่นาน ท่านจึงเดินเข้าไปหาชายผู้นั้น แล้วด้วยอำนาจแห่งอิมามะฮ์ ท่านแยกมือของชายคนนั้นออกจากแขนหญิงโดยไม่หลงเหลือร่องรอยใด ๆ
เจ้าผู้ครองนครถามว่า "โอ้ฮูเซน (อ.) ข้าควรลงโทษชายคนนี้หรือไม่?"
ท่านตอบเพียงว่า: "ไม่ต้อง"
นักเล่ากล่าวไว้ว่า ท่านอิมามฮูเซน (อ.) ได้แสดงความเมตตาอันยิ่งใหญ่ต่อชายคนนั้น แม้เขาจะเป็นเพียงคนดูแลอูฐธรรมดา แต่เขากลับตอบแทนความดีด้วยความทรยศ เพราะในค่ำคืนที่สิบเอ็ดแห่งเดือนมุฮัรรอม—หลังจากโศกนาฏกรรมแห่งกัรบาลา—ชายคนนี้ได้ตัดมือของอิมามฮูเซน (อ.) ขณะพยายามขโมยสายรัดกางเกงจากร่างของอิมามที่ถูกสังหารแล้ว
เรื่องนี้เป็นบทเรียนที่สะท้อนถึงความเมตตาอันยิ่งใหญ่ของอิมาม และในขณะเดียวกันก็เตือนใจเราถึงความอกตัญญูของบางคนที่แม้ได้รับความดีแล้ว ก็ยังเลือกตอบแทนด้วยความเลวทราม
ขอขอบคุณข้อมูล เพจ ฟานูซ

