เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

มุตอะห์ในอิสลาม

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

มุตอะห์ในอิสลาม

 

หลักฐานและการยกเลิกโดยคอลีฟะฮฺอุมัร

 ประเด็นแรก : มุตอะห์มีอยู่ในอิสลามหรือไม่ ?

คำตอบนั้นปรากฏชัดเจนในเชิงหลักฐานว่า มุตอะห์เป็นส่วนหนึ่งที่มีอยู่จริงในหลักคำสอนของอิสลาม และได้รับการปฏิบัติในสมัยของท่านรอซูลุลลอฮฺ ศ็อลฯ โดยปราศจากข้อห้ามใด ๆ จากอัลกุรอานหรือท่านรอซูล ศ็อลฯ เอง

๑. หลักฐานจากศ่อเฮี๊ยะบุคอรีย์

4246 حَدَّثَنَا مُسَدَّدٌ حَدَّثَنَا يَحْيَي عَنْ عِمْرَانَ أَبِي بَكْرٍ حَدَّثَنَا أَبُو رَجَاءٍ عَنْ عِمْرَانَ بْنِ حُصَيْنٍ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُمَا قَال أُنْزِلَتْ آيَةُ الْمُتْعَةِ فِي كِتَابِ اللَّهِ فَفَعَلْنَاهَا مَعَ رَسُولِ اللَّهِ صَلَّي اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ وَلَمْ يُنْزَلْ قُرْآنٌ يُحَرِّمُهُ وَلَمْ يَنْهَ عَنْهَا حَتَّي مَاتَ قَالَ رَجُلٌ بِرَأْيِهِ مَا شَاءَ

صحيح بخاري ج4 ص1642 كتاب التفسير، باب قوله تعالي «يا أيّها الذين آمنوا لا تحرّموا طيّبات ما أحل اللّه لكم» (المائدة 87)

อายะฮฺว่าด้วยมุตอะห์ได้ถูกประทานลงมาในคัมภีร์ของอัลลอฮฺ ดังนั้น เราได้ปฏิบัติมันในสมัยของท่านรอซูลุลลอฮฺ ศ็อลฯ และไม่เคยมีอายะฮฺใดจากอัลกุรอานที่ถูกประทานลงมาเพื่อห้าม อีกทั้งท่านรอซูล ศ็อลฯ เองก็ไม่เคยห้าม จนกระทั่งท่านได้ถึงแก่อสัญกรรม ต่อมา ชายผู้หนึ่งได้กล่าวห้ามมันขึ้นตามความเห็นส่วนตัวของตนเอง

อิบนุ หะญัร อัล-อัสเกาะลานีย์ ได้อธิบายว่า ชายที่ถูกกล่าวถึงในรายงานนี้คือ คอลีฟะฮฺท่านที่สอง อุมัร อิบนุ ค็อตฏอบ

๒. หลักฐานจากศ่อเฮี๊ยะมุสลิม

ฮะดีษที่ 1405

وَحَدَّثَنَا مُحَمَّدُ بْنُ بَشَّارٍ، حَدَّثَنَا مُحَمَّدُ بْنُ جَعْفَرٍ، حَدَّثَنَا شُعْبَةُ عَنْ عَمْرُو بْنِ دِينَارٍ، قَالَ: سَمِعْتُ الْحَسَنَ بْنَ مُحَمَّدٍ يُحَدِّثُ عَنْ جَابِرِ بْنِ عَبْدِ اللَّهِ وَسَلْمَةَ بْنِ الْأَكْعُوْعِ، قَالَا: خَرَجَ عَلَيْنَا مُنَادِي رَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ، فَقَالَ: إِنَّ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَدْ أَذِنَ لَكُمْ أَنْ تَسْتَمْتِعُوا، يَعْنِي مُتْعَةَ النِّسَاءِ.

ญาบิร บิน อับดุลลอฮฺ และซัลมะฮฺ บิน อัล-อักอฺวะอฺ เล่าว่า :
มีผู้ประกาศของท่านรอซูล ศ็อลฯ ออกมากล่าวกับพวกเราว่า : แท้จริง ท่านรอซูลุลลอฮฺ ศ็อลฯ ได้อนุญาตให้พวกท่านทำมุตอะห์ หมายถึง มุตอะห์กับสตรี”

وَحَدَّثَنَا الْحَسَنُ الْحَلْوَانِيُّ. حَدَّثَنَا عَبْدُ الرَّزَّاقِ. أَخْبَرَنَا ابْنُ جَرِيجٍ. قَالَ: قَالَ عَطَاءٌ: قَدِمَ جَابِرُ بْنُ عَبْدِ اللَّهِ مُعْتَمِرًا. فَجِئْنَاهُ فِي مَنْزِلِهِ. فَسَأَلَهُ الْقَوْمُ عَنْ أَشْيَاءَ. ثُمَّ ذَكَرُوا الْمُتْعَةَ. فَقَالَ: نَعَمْ. اسْتَمْتَعْنَا عَلَى عَهْدِ رَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ، وَأَبِي بَكْرٍ وَعُمَرَ

อะฏออ์เล่าว่า “เมื่อญาบิร บิน อับดุลลอฮฺเดินทางไปทำอุมเราะฮฺ ณ มักกะฮฺ เราได้ไปเยี่ยมท่านที่บ้าน ผู้คนได้ถามท่านหลายเรื่อง จนเมื่อมีผู้เอ่ยถึงเรื่องมุตอะห์ ญาบิรตอบว่า :
‘ใช่แล้ว เราได้ปฏิบัติมุตอะห์ในสมัยของท่านรอซูล ศ็อลฯ รวมทั้งในสมัยของอบูบักร และแม้กระทั่งในสมัยของอุมัร’”

⚜️ ประเด็นที่สอง : ผู้ใดคือผู้ยกเลิกมุตอะห์ ?

หลักฐานบ่งชี้ตรงกันว่า ผู้ที่ประกาศยกเลิกมุตอะห์คือคอลีฟะฮฺอุมัร อิบนุ ค็อตฏอบ หาใช่คำสั่งห้ามที่มาจากอัลกุรอานหรือจากท่านรอซูล ศ็อลฯ แต่อย่างใด

๑. รายงานจากศ่อเฮี๊ยะมุสลิม

َحدَّثَنِي مُحَمَّدُ بْنُ رَافِعٍ، حَدَّثَنَا عَبْدُ الرَّزَّاقِ. أَخْبَرَنَا ابْنُ جُرَيْجٍ، أَخْبَرَنِي أَبُو الزُّبَيْرِ، قَالَ: سَمِعْتُ جَابِرَ بْنَ عَبْدِ اللَّهِ يَقُولُ: كُنَّا نَسْتَمْتِعُ بِالْقُبْضَةِ مِنَ التَّمْرِ وَالدَّقِيقِ أَيَّامًا عَلَى عَهْدِ رَسُولِ اللَّهِ ﷺ وَأَبِي بَكْرٍ، حَتَّى نَهَى عَنْهُ عُمَرُ فِي شَأْنِ عَمْرُو بْنِ حُرَيْثٍ

อบูซุเบร รายงานว่า เขาได้ยินญาบิร บิน อับดุลลอฮฺกล่าวว่า :
“พวกเราเคยทำมุตอะห์ด้วยเพียงกำมือของอินทผลัมหรือแป้ง เพื่ออยู่ร่วมกันเป็นเวลาหลายวัน ทั้งในสมัยของท่านรอซูล ศ็อลฯ และในสมัยของอบูบักร จนกระทั่งอุมัรได้ห้ามมัน (อันเนื่องด้วยกรณีของอัมรฺ บิน หุร็อยษฺ)”

๒. รายงานอีกบทจากศ่อเฮี๊ยะมุสลิม

حَدَّثَنَا حَامِدُ بْنُ عُمَرَ الْبَكْرَاوِيُّ، حَدَّثَنَا عَبْدُ الْوَاحِدِ - يَعْنِي ابْنُ زِيَادٍ - عَنْ عَاصِمٍ عَنْ أَبِي نُضْرَةَ، قَالَ: كُنْتُ عِنْدَ جَابِرِ بْنِ عَبْدِ اللَّهِ، فَأَتَاهُ آتٍ فَقَالَ: ابْنُ عَبَّاسٍ وَابْنُ الزُّبَيْرِ اخْتَلَفَا فِي الْمُتْعَتَيْنِ. فَقَالَ جَابِرٌ: فَعَلْنَاهُمَا مَعَ رَسُولِ اللَّهِ ﷺ، ثُمَّ نَهَانَا عَنْهُمَا عُمَرُ، فَلَمْ نَعُدْ لَهُمَا.

อบู นุศเราะฮฺ เล่าว่า :
“ครั้งหนึ่ง ข้าพเจ้านั่งอยู่กับญาบิร บิน อับดุลลอฮฺ แล้วมีชายผู้หนึ่งมากล่าวว่า :
‘อิบนุอับบาสและอิบนุซุบัยรฺมีความเห็นต่างกันในเรื่องมุตอะห์ทั้งสอง’
ญาบิรจึงตอบว่า :
‘เราได้เคยปฏิบัติทั้งสองนั้นในสมัยของท่านรอซูล ศ็อลฯ แต่ต่อมาอุมัรได้ห้าม และเราก็ละเลิกมิได้ทำอีกเลย’”

สรุป

เมื่อพิจารณาจากหลักฐานทั้งมวลนี้ ย่อมชัดเจนว่า มุตอะห์เป็นสิ่งที่มีอยู่จริงในอิสลาม และได้รับการยืนยันโดยอายะฮฺอัลกุรอานรวมทั้งบรรดารายงานหะดีษที่เชื่อถือได้ อีกทั้งมิได้มีการยกเลิกหรือห้ามปรามในสมัยของท่านรอซูลุลลอฮฺ ศ็อลฯ หรือในสมัยของอบูบักร คำสั่งห้ามและการยกเลิกนั้นเกิดขึ้นภายหลัง โดยการประกาศของคอลีฟะฮฺอุมัร อิบนุ ค็อตฏอบ ดังคำกล่าวของอมีรุลมุอ์มินีน และอิบนุอับบาส

อิบนุญะรีร อัฏ-เฏาะบะรี และอัส-สุยูฏี ได้บันทึกไว้ในตัฟซีรของท่านทั้งสอง โดยอ้างจากอมีรุลมุอ์มินีน อะลี อะลัยฮิสสลาม ว่าท่านได้กล่าวว่า:

لولا أنّ عمر رضي اللّه عنه نهي عن المتعة ما زني إلاّ شقي.

หากท่านอุมัร รอฎิยัลลอฮุอันฮุ มิได้ห้ามการ มุตอะฮ์ แล้วไซร้ ย่อมไม่มีผู้ใดล่วงละเมิดประพฤติซินา นอกจากคนชั่วจริงๆเท่านั้น

ความหมายก็คือ ถ้าท่านอุมัรไม่ห้าม มุตอะฮ์ มนุษย์ทั่วไปก็คงจะหันไปใช้การมุตอะฮ์แทนที่จะประพฤติซินา เหลือไว้เพียงผู้ประพฤติชั่วเท่านั้นที่ยังเลือกทำผิด

แหล่งอ้างอิง:
 • ตัฟซีร อัฏ-เฏาะบะรี เล่มที่ 5 หน้า 13 (พิมพ์ ดารุลฟิกร์ เบรุต)
 • อัด-ดุรร์ อัลมันษูร เล่มที่ 2 หน้า 486 (พิมพ์ ดารุลฟิกร์ เบรุต)

เช่นเดียวกัน อับดุรเร็าะซซ๊าก ก็ได้บันทึกถ้อยคำใกล้เคียงกันจากอมีรุลมุอ์มินีนใน อัล-มุศ็อนนัฟ (เล่ม 7 หน้า 500 หมายเลข 14029)

ส่วนอัล-เกาะรฏุบีย์ ก็ได้ถ่ายทอดข้อความในทำนองเดียวกันนี้จากอิบนุอับบาส ใน ตัฟซีร ของท่าน (เล่ม 5 หน้า 130, พิมพ์ ดารุชชะอ์บ์ ไคโร)


บทความโดย เชคอันศอร เหล็มปาน

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม