ความจำเป็นของเอกภาพอิสลามและแนวทางสู่การบรรลุผล ตอนที่ 1​

บทนำ
หนึ่งในแผนการของกลุ่มล่าอาณานิคมในการบรรลุเป้าหมายในประเทศอิสลาม คือการ สร้างความแตกแยก ในหมู่มุสลิมมาโดยตลอด พวกเขาพยายามขัดขวางเอกภาพของประชาชาติอิสลามด้วยสองแนวทางหลัก: 
หนึ่ง คือการปลุกปั่นความคลั่งไคล้ทางเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ หรือชาตินิยม 
และ สอง คือการกระตุ้นความคลั่งไคล้ทางนิกาย เช่น ชีอะห์และซุนนี่ 
ท่านอิมามโคมัยนี ได้กล่าวไว้ว่า: 
สิ่งที่อันตรายและน่าเศร้ากว่าชาตินิยม คือการสร้างความขัดแย้งระหว่างกลุ่มอะห์ลุสซุนนะฮ์และชีอะห์ และการโฆษณาชวนเชื่อที่ปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยกและเป็นศัตรูระหว่างพี่น้องมุสลิม" 
ด้วยเหตุนี้ เนื่องจากวันประสูติของท่านศาสดามุฮัมมัด ศ็อลฯ ตามการรายงานของชีอะห์คือวันที่ 17 เราะบีอุ้ลเอาวัล และตามการรายงานของอะห์ลุสซุนนะฮ์คือวันที่ 12 เราะบีอุ้ลเอาวัล ในวันที่ 6 ธันวาคม ค.ศ. 1981 อิมามโคมัยนีจึงได้ประกาศให้ช่วงวันที่ 12 ถึง 17 เราะบีอุ้ลเอาวัลของทุกปีเป็น “สัปดาห์แห่งเอกภาพ” เพื่อให้มุสลิมทั่วโลกได้จัดงานชุมนุม, สัมมนา และเฉลิมฉลอง เพื่อ เสริมสร้างเอกภาพและภราดรภาพ ในอิสลาม พร้อมทั้งส่งเสริมการปฏิวัติอิสลามโลก ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สัปดาห์แห่งเอกภาพก็ได้ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในอิหร่านและประเทศอิสลามอื่น ๆ
เป็นที่ชัดเจนว่าการตั้งชื่อนี้เกิดขึ้นจากความจำเป็นทางสังคมและการเมือง ไม่ใช่เพียงแค่พิธีการหรือรูปแบบเท่านั้น อิมามโคมัยนีได้รับรู้ถึงความจำเป็นนี้ จึงได้ยับยั้งความขัดแย้งและความแตกแยกระหว่างมุสลิม โดยเฉพาะระหว่างซุนนีและชีอะห์ และตอบโต้แผนการล่าอาณานิคมที่ใช้หลักการ "แบ่งแยกแล้วปกครอง" ได้อย่างดีที่สุด
การที่จักรวรรดิออตโตมันอันยิ่งใหญ่ถูกแบ่งแยกออกเป็นประเทศเล็ก ๆ ผ่านการกระตุ้นความคลั่งไคล้ทางศาสนาและเชื้อชาติ และหลังจากนั้นประเทศเหล่านี้ก็ตกเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตก ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนและเป็นพยานที่มีชีวิตของความเป็นจริงอันขมขื่นนี้ ในปัจจุบัน การเติบโตของกลุ่มตักฟีรี (กลุ่มที่ตัดสินว่ามุสลิมคนอื่นเป็นกาเฟร) เช่น กลุ่มไอซิส (ISIS) ก็เป็นผลผลิตของแผนการที่ฉ้อฉลเช่นนี้
ในบทความนี้ เราจะพยายามชี้แจงถึง "ความจำเป็นของเอกภาพอิสลาม" และนำเสนอแนวทางสู่การบรรลุผลในสังคมอิสลาม โดยเริ่มจากการให้คำจำกัดความ "เอกภาพอิสลาม" ก่อน
������️ นิยามของเอกภาพ (Definition of Unity)
เจตนาของ "เอกภาพอิสลาม" คือ ความเป็นปึกแผ่น ของมุสลิมและการรวมตัวกันของผู้นับถือหลายนิกาย แม้จะมีความเห็นต่างทางศาสนา เพื่อยืนหยัดต่อต้านศัตรูของอิสลามและคนภายนอก
เอกภาพอิสลาม ไม่ได้หมายถึงการรวมนิกายต่าง ๆ ให้เป็นหนึ่งเดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ และไม่ใช่จุดประสงค์ของผู้ที่เรียกร้องเอกภาพ และไม่ได้หมายความว่าซุนนีต้องเปลี่ยนเป็นชีอะห์ หรือชีอะห์ต้องเปลี่ยนเป็นซุนนี
แต่หมายถึงการ ละเว้นประเด็นที่มีความเห็นต่าง แล้ว มุ่งเน้นไปที่จุดร่วม และใช้จุดร่วมเหล่านั้นเป็นพื้นฐานในการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน รวมถึงการจัดการปัญหาที่เกี่ยวข้องกับโลกอิสลามและเวทีระหว่างประเทศ เพื่อให้มุสลิมสามารถดำเนินไปในทิศทางเดียวกันโดยปราศจากความขัดแย้งและหลีกเลี่ยงความแตกแยกในประเด็นของโลกอิสลาม
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ความแตกต่างไม่ควรเป็นอุปสรรคต่อความเป็นพี่น้องในอิสลามและการรวมกันของกลุ่มมุสลิมเพื่อต่อต้านศัตรู ดังนั้น ความหมายของการรวมกันของชีอะห์และซุนนี ไม่ได้หมายถึงการละทิ้งหลักการและความเชื่อของตน แต่หมายถึงการที่ทั้งสองกลุ่มควรจะใกล้ชิดกันมากขึ้นบนแกนหลักของจุดร่วมที่มีมากมาย และร่วมมือร่วมใจกันเพื่อรักษาและยกระดับอิสลาม เพราะทั้งสองกลุ่มมีศัตรูเดียวกัน นั่นคือศัตรูของอิสลามคือศัตรูของทั้งสองนิกาย
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน(อายะตุลลอฮ์ คาเมเนอี) ได้ให้ความเห็นในการตีความเอกภาพว่า: "สิ่งที่เราหมายถึงเอกภาพอิสลาม ไม่ใช่การทำให้หลักความเชื่อและนิกายอิสลามกลายเป็นหนึ่งเดียว แต่สิ่งที่เราหมายถึงเอกภาพของโลกอิสลามคือ การไม่มีความขัดแย้ง (وَلَا تَنَازَعُوا فتَفْشَلُوا - และอย่าแก่งแย่งกันเอง เพราะจะทำให้พวกเจ้าล้มเหลว) คือต้องไม่มีความขัดแย้ง ไม่มีความแตกแยก" 
นอกจากนี้ ท่านยังกล่าวว่า: "เอกภาพของมุสลิมไม่ได้หมายความว่ามุสลิมและนิกายต่างๆ จะละทิ้งความเชื่อทางเทววิทยาและหลักนิติศาสตร์เฉพาะของตนเอง แต่เอกภาพของมุสลิมหมายความว่า นิกายอิสลามต่างๆ (นิกายซุนนีและนิกายชีอะห์) ซึ่งแต่ละนิกายมีความแตกต่างทางเทววิทยาและนิติศาสตร์ ควรจะมีความเห็นอกเห็นใจ, ร่วมมือ, ร่วมแรง และร่วมความคิดกันอย่างแท้จริงในการเผชิญหน้ากับศัตรูของอิสลาม" 
������️ ความจำเป็นของเอกภาพอิสลาม
อิสลามมองหลักการของเอกภาพและการรวมกันจากมุมมองทางการเมืองและสังคม และได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของมัน ดังนั้น อัลกุรอานจึงเรียกผู้ศรัทธาทั้งหมดว่าเป็นพี่น้องกัน โดยกล่าวว่า: 
إِنَّمَا الْمؤْمِنُونَ إِخوَةٌ
แท้จริงบรรดาผู้ศรัทธานั้นเป็นพี่น้องกัน
ความผูกพันแห่งภราดรภาพนี้แข็งแกร่งมากในหมู่มุสลิมมะดีนะฮ์ จนกระทั่งในช่วงเวลาหนึ่ง พวกเขาสืบทอดมรดกจากกันและกันหลังจากได้ทำพันธสัญญาแห่งความเป็นพี่น้อง
ในปัจจุบัน ภายใต้สถานการณ์ที่ศัตรูของอิสลามใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อต่อสู้และเผชิญหน้ากับอิสลาม เอกภาพอิสลามจึงมีความจำเป็นยิ่งกว่าในอดีต การมุ่งเน้นไปที่ความแตกต่างและประเด็นที่สร้างความแตกแยกจะส่งผลเพียงแค่การสูญเสียทรัพยากร และการที่ศัตรูจะใช้ประโยชน์จากความแตกแยกเหล่านั้นเท่านั้น
������️ ความจำเป็นของ "เอกภาพอิสลาม": การพิสูจน์จากหลายมิติ
ความจำเป็นของ "เอกภาพอิสลาม" (วะห์ดะห์ อิสลามียะห์) สามารถพิสูจน์ได้จากหลายแง่มุม ดังนี้:
������1. การเน้นย้ำเรื่องเอกภาพในคัมภีร์และวจนะ
ในหลายโองการของ อัลกุรอาน ได้มีการกำชับให้ประชาชาติอิสลามมีความเป็นเอกภาพ เช่น:
وَاعتَصِمُوا بِحَبلِ اللَّهِ جَمِیعاً و لاتَفَرَّقُوا
และจงยึดมั่นต่อสายเชือกของอัลลอฮ์โดยรวมกันทั้งหมด และอย่าแตกแยกกันเลย
ท่าน อัลลามะฮ์ เฏาะบาเฏาะบาอี ร.ฮ. ได้อธิบายตัฟซีร (การตีความ) โองการนี้ไว้ว่า: "บางทีการที่ [อัลกุรอาน] เรียกร้องให้ยึดมั่นต่อสายเชือกของอัลลอฮ์และไม่แตกแยกนั้น เป็นการชี้ให้เห็นว่า นี่ไม่ใช่การเรียกร้องที่ไร้เหตุผล เพราะพวกท่านได้ประจักษ์ด้วยตนเองถึง ผลลัพธ์อันหอมหวานของการรวมกลุ่ม และ ความขมขื่นของความแตกแยก แล้ว โดยอาศัยความแตกแยก พวกท่านเคยไปยืนอยู่ที่ปากเหวแห่งไฟนรก แต่ด้วยเอกภาพและความรักใคร่ฉันพี่น้อง พวกท่านจึงรอดพ้นจากไฟนั้นได้
นอกจากนี้ อัลกุรอานยังถือว่า ความแตกแยกคือหนึ่งในหายนะที่เลวร้ายที่สุด โดยกล่าวว่า:
وَلَا تَکونُوا کالَّذِینَ تَفَرَّقُوا وَاخْتَلَفُوا مِنْ بَعْدِ مَا جَاءَهُمُ الْبَینَاتُ وَأُولَئِک لَهُمْ عَذَابٌ عَظِیمٌ
และพวกเจ้าอย่าได้เป็นเช่นบรรดาผู้ที่แตกแยกและขัดแย้งกัน ภายหลังจากที่ได้มีหลักฐานอันชัดเจนมายังพวกเขาแล้ว และสำหรับพวกเขานั้นคือการลงโทษอันมหันต์
ขณะเดียวกัน ท่านศาสดามุฮัมมัด ศ็อลฯ และ อิมามผู้บริสุทธิ์ อ. ก็ได้เน้นย้ำถึงเรื่องเอกภาพอย่างต่อเนื่อง ดังตัวอย่างวจนะบางส่วน:
• ท่านศาสดา ศ็อลฯ กล่าวว่า : 
أیهَا النّاسُ! عَلَیکم بِالجَماعَةِ و إیاکم و الفُرقَةَ؛
โอ้มนุษย์! จงยึดมั่นในการรวมกลุ่ม (ญะมาอะฮ์) และจงระวังการแบ่งแยก
• ท่านศาสดา ศ็อลฯ กล่าวอีกว่า : 
الجَماعَةُ رَحمَةٌ و الفرقَةُ عَذابٌ؛
เอกภาพนำมาซึ่งความเมตตา แต่ความแตกแยกนำมาซึ่งการลงโทษ
• ท่านศาสดา ศ็อลฯ : 
یدُاللَّهِ عَلَی الجَماعَةِ و الشَّیطانُ مَعَ مَن خالَفَ الجَماعَةَ یرکضُ؛
พระหัตถ์ของอัลลอฮ์อยู่เหนือการรวมกลุ่ม และชัยฏอนจะอยู่กับผู้ที่ต่อต้านการรวมกลุ่ม โดยมันจะเร่งเร้าอยู่รอบๆ
• ท่านอิมามอะลี อ. กล่าวว่า : 
عَلَیکم بِالتَّواصُلِ وَ التَّباذُلِ و إیاکم و التَّدابُرَ و التَّقاطُعَ؛
จงเชื่อมโยงและจุนเจือซึ่งกันและกัน และจงหลีกเลี่ยงการหันหลังให้และการตัดขาดกัน
������2. ผลประโยชน์ของอิสลามและการได้รับประโยชน์ของมุสลิม
เหตุผลหนึ่งที่ทำให้เอกภาพอิสลามเป็นสิ่งจำเป็นคือ เพื่อให้มุสลิมสามารถ ได้รับประโยชน์สูงสุดจากคำสอนของอิสลาม ผลประโยชน์ของประชาชาติอิสลามเรียกร้องให้มุสลิมทั้งหมดรวมกันเป็นหนึ่งรอบแกนร่วมเดียวกัน
เราจะเข้าใจถึงความสำคัญของเอกภาพได้ เมื่อเราย้อนอ่านประวัติศาสตร์ที่ ท่านอิมามอะลี อ.  ภายหลังการจากไปของท่านศาสดา ศ็อลฯ ทรงเลือก นโยบายแห่งเอกภาพ แทนที่จะทวงคืนตำแหน่งคอลีฟะฮ์ซึ่งเป็นสิทธิ์โดยชอบธรรมของท่าน ทั้งนี้เพื่อ รักษาความมั่นคงของอิสลาม ต่อหน้าศัตรู และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายสูงสุดของเอกภาพ นั่นคือชัยชนะของโลกอิสลามและการอธิบายหลักการอิสลามที่แท้จริง
ท่านอิมามอะลี อ. ทรงเลือก ผลประโยชน์ของส่วนรวม (การประนีประนอมด้วยสติปัญญา) เหนือ สิทธิส่วนตน (ความถูกต้อง) ในช่วงเวลานั้น และถือว่า เอกภาพของมุสลิมมีความสำคัญยิ่งกว่าการเป็นคอลีฟะฮ์ เนื่องจากศัตรูผู้สาบานตนของอิสลามและมุสลิมกำลังรอโอกาสที่จะทำให้มุสลิมเผชิญหน้ากันเอง
ท่านชะฮีด มุเฏาะฮะรี (ร.ฮ.) กล่าวว่า: 
เราต้องตระหนักว่า ในยุคนี้ มุสลิมมีความจำเป็นต้องรวมกลุ่มและขจัดความขัดแย้งยิ่งกว่ายุคใดๆ เราชาวชีอะฮ์มีความภูมิใจที่ท่านอะลี อ. ทรงแสดง การเสียสละและการออมชอมครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด ในประเด็นคอลีฟะฮ์ ท่านได้ให้ความร่วมมือและเดินไปด้วยกันกับคู่แข่งของท่านด้วยความบริสุทธิ์ใจอย่างถึงที่สุด นั่นคือ ท่านถือว่า ผลประโยชน์ของอิสลามคือผลประโยชน์ที่สูงส่งที่สุด
������ 3. ความสำคัญทางยุทธศาสตร์ของเอกภาพ
ดังที่กล่าวมา เอกภาพของประชาชาติอิสลามถือเป็น ความจำเป็นทางสังคม-การเมือง เป็นเรื่องสำคัญยิ่ง และเป็น ยุทธศาสตร์ ที่ไม่เกี่ยวกับรูปแบบหรือพิธีการภายนอกเท่านั้น
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน(อายะตุลลอฮ์ คาเมเนอี) กล่าวว่า : 
เป้าหมายของงานนี้คือ ด้วยการชูคำขวัญเอกภาพของมุสลิม—ซึ่งเป็นคำขวัญที่ถูกต้องและจำเป็นอย่างยิ่ง และข้าพเจ้าก็มีความเชื่อแนวคิดนี้มาโดยตลอด และถือว่ามันเป็น ประเด็นเชิงยุทธศาสตร์ ไม่ใช่ประเด็นเชิงยุทธวิธี (Tactical) หรือตามผลประโยชน์เฉพาะหน้า—มุสลิมจะค่อยๆ ลดและขจัดความขัดแย้งทางศาสนาและนิกายเหล่านี้ลง เพราะมันกำลังรับใช้ศัตรู ด้วยแรงจูงใจที่ถูกต้องนี้ เราจึงได้วางเรื่อง เอกภาพของมุสลิม ไว้เป็น ประเด็นหลัก ในสาธารณรัฐอิสลาม
������4. การรับมือกับศัตรู
ปัจจัยหนึ่งที่นำไปสู่ความก้าวหน้าและความสำเร็จของทุกประชาชาติคือ การรวมเป็นหนึ่ง เช่นเดียวกับการรวมตัวของหยดน้ำและลำธารเล็กๆ ที่ก่อให้เกิดแม่น้ำ และทะเลใหญ่ การรวมกลุ่มของมนุษย์ก็จะสร้าง แถวขบวนอันยิ่งใหญ่ ที่ทำให้ศัตรูหวาดกลัว และกำจัดความคิดที่จะรุกรานออกจากหัวของพวกเขาไปตลอดกาล: 
تُرْهِبُونَ بِهِ عَدُوَّ اللَّهِ وَ عَدُوَّکمْ
เพื่อที่พวกเจ้าจะทำให้ศัตรูของอัลลอฮ์ และศัตรูของพวกเจ้าเกรงกลัว
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน(อายะตุลลอฮ์ คาเมเนอี) เชื่อว่า: 
นี่คือภัยคุกคามสำหรับระบอบทรราชและจักรวรรดินิยม มุสลิมจำนวน 1.5 พันล้านคน ประเทศอิสลามมากมาย พร้อมด้วยทรัพยากรที่มหาศาล และศักยภาพบุคลากรที่พิเศษยิ่ง หาก [กลุ่มทั้งหมดนี้] เป็นเอกภาพ และเคลื่อนไปสู่เป้าหมายอิสลามด้วยความเป็นเอกภาพ อำนาจอื่นๆ จะไม่สามารถแผดเสียงแห่งอำนาจในโลกนี้ได้
������ 5. การนำเสนอภาพลักษณ์ที่แท้จริงของอิสลาม
เหตุผลอีกประการที่ทำให้เอกภาพอิสลามเป็นสิ่งจำเป็นคือ เพื่อ แก้ไขมุมมองของประชาคมโลก ต่อศาสนาอิสลาม และ สร้างเส้นแบ่ง ระหว่างอิสลามที่แท้จริงกับนิกายที่ถูกสร้างขึ้นมา
ศัตรูที่ไม่สามารถหาจุดด่างพร้อยในนโยบายของท่านศาสดามุฮัมมัด ศ็อลฯ และอิมามผู้บริสุทธิ์ อ. ได้ จึงพยายามทำให้ศาสนาอิสลามถูกมองข้าม และหันไป ก่อตั้งนิกายเทียม ซึ่งเป็นช่องทางในการแสดงภาพอิสลามว่าสุดโต่ง นิกายเหล่านี้ถูกจักรวรรดินิยมเก่า (อังกฤษ) ผลักดันเข้าสู่โลกอิสลาม เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ผิดๆ ของอิสลามในความคิดของผู้คนทั่วโลก โดยเฉพาะชาวตะวันตก แต่ด้วย เอกภาพของประชาชาติอิสลาม เราสามารถตอบโต้การกระทำเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 แนวทางสู่การบรรลุความเป็นเอกภาพแห่งอิสลาม
คำถามที่เกิดขึ้นในใจ ณ ที่นี้คือ : 
เราจะสามารถบรรลุความเป็นเอกภาพได้อย่างไร? 
และในความเป็นจริง แนวทางที่แท้จริงของการบรรลุเอกภาพอิสลามคืออะไร? 

[บทความโดย | เชคอันซอร เหล็มปาน]