เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

ความโกรธของท่านหญิงฟาติมะฮ์ (ซะลามุลฯ) และความหมายทางศาสนา

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

ความโกรธของท่านหญิงฟาติมะฮ์ (ซะลามุลฯ) และความหมายทางศาสนา


ประเด็นเรื่องความโกรธของท่านหญิงฟาติมะฮ์ อัซ-ซะฮ์รอ (สลามุลลอฮิอะลัยฮา) ธิดาผู้ทรงเกียรติของท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ วะอาลิฮิ วะสัลลัม) ต่อท่านอบูบักรและท่านอุมัรเป็นหนึ่งในหัวข้อสำคัญที่ปรากฏอยู่ในตำราหะดีษของฝ่ายซุนนีเอง
หลังจากการถึงแก่อสัญกรรมของท่านศาสดาท่านหญิงฟาติมะฮ์ (อ.) ต้องเผชิญกับความยากลำบากและการกระทำที่สร้างความทุกข์ใจจากผู้ที่แสวงหาอำนาจในสังคมมุสลิมยุคนั้นความไม่พอใจของนางต่อท่านอบูบักรและท่านอุมัรจึงมิใช่เพียงเรื่องส่วนตัวแต่เป็นประเด็นที่มีนัยสำคัญทางศาสนาและการเมือง เนื่องจากสะท้อนถึงการตั้งคำถามต่อความชอบธรรมของการขึ้นครองตำแหน่งคอลีฟะฮ์ ของทั้งสองบุคคลนั้น
ในความเชื่อของชาวมุสลิมท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ วะอาลิฮิ วะสัลลัม) เคยตรัสไว้ว่า:
“ผู้ใดทำให้ฟาติมะฮ์โกรธ ก็เท่ากับทำให้ฉันโกรธ”
ดังนั้นความโกรธของท่านหญิงฟาติมะฮ์ (อ.) จึงถูกถือเป็นเกณฑ์แห่งความจริงและความเท็จหรือเป็นสัญลักษณ์ที่ชี้ให้เห็นถึงความถูกต้องในทางศรัทธาและจริยธรรม
ในบทความนี้ผู้เขียนจะนำเสนอหะดีษจากท่านศาสดาที่กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างความโกรธของท่านฟาติมะฮ์กับความโกรธของท่านศาสดาและตามด้วยคำกล่าวของท่านหญิงฟาติมะฮ์ (อ.) เอง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงท่าทีของนางต่อคอลีฟะฮ์ทั้งสองเพื่อทำความเข้าใจถึงมูลเหตุและความหมายทางศาสนาของเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างลึกซึ้ง

สถานะอันสูงส่งของท่านหญิงฟาติมะฮ์ (อัลลอฮ์ทรงประทานสันติแก่เธอ)ในสายพระเนตรของพระผู้เป็นเจ้า
คุณความดีและเกียรติคุณของท่านหญิงฟาติมะฮ์ อัซ-ซะฮ์รอ (สลามุลลอฮิอะลัยฮา) ธิดาของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ วะอาลิฮิ วะสัลลัม) ได้รับการบันทึกไว้อย่างกว้างขวางในตำราของฝ่ายอะฮ์ลิซซุนนะฮ์ (ซุนนี) เช่นเดียวกับในแหล่งอ้างอิงของฝ่ายชีอะฮ์
ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ได้กล่าวยืนยันถึงฐานะของนางไว้ว่า:
«فَاطِمَهُ سَیِّدَهُ نِسَاءِ أَهْلِ الْجَنَّهِ»
“ฟาติมะฮ์คือผู้นำของสตรีทั้งหลายแห่งสวรรค์”
ถ้อยคำนี้สะท้อนให้เห็นถึงเกียรติอันสูงสุดที่พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบให้แก่เธอ ซึ่งไม่มีสตรีใดในสากลโลกจะได้รับตำแหน่งเช่นนี้
ท่านศาสดา (ศ็อลฯ) ยังได้กล่าวอีกว่า
«فَاطِمَهُ بَضْعَهٌ مِنِّی‏، فَمَنْ أَغْضَبَهَا أَغْضَبَنِی»
“ฟาติมะฮ์เป็นส่วนหนึ่งจากตัวฉันผู้ใดทำให้นางโกรธย่อมทำให้ฉันโกรธด้วย”
และในอีกถ้อยคำหนึ่งว่า:
«إِنَّمَا فَاطِمَهُ بَضْعَهٌ مِنِّی‏، یُؤْذِینِی مَا آذَاهَا»
“แท้จริงฟาติมะฮ์เป็นส่วนหนึ่งจากตัวฉัน สิ่งใดที่ทำร้ายนางย่อมทำร้ายฉันเช่นกัน”
ถ้อยคำเหล่านี้ถูกบันทึกไว้ในตำราหะดีษสำคัญของฝ่ายซุนนี เช่นเศาะฮีหฺบุคอรี และเศาะฮีหฺมุสลิม ซึ่งเป็นหลักฐานชัดเจนถึงความผูกพันลึกซึ้งระหว่างท่านศาสดากับธิดาผู้เป็นที่รักและยังสะท้อนให้เห็นว่าความพึงพอใจหรือความโกรธของท่านฟาติมะฮ์ (อ.) เป็นสิ่งที่เกี่ยวพันโดยตรงกับท่านศาสดาเอง
#ฟาติมะฮ์ หนึ่งใน “อะฮ์ลุลกิสาอ์”
ท่านหญิงฟาติมะฮ์ (อ.) ยังเป็นหนึ่งในสมาชิกของ อะฮ์ลุลกิสาอ์ (ผู้ที่อยู่ใต้ผ้าคลุม) ร่วมกับท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ท่านอาลี (อ.) ท่านฮะซัน และท่านฮุเซน (อ.) ซึ่งเป็นบุคคลที่พระผู้เป็นเจ้าทรงชำระให้บริสุทธิ์จากมลทินทั้งปวงตามที่ระบุไว้ใน “อายะตุ้ลตัฏฮีรฺ” (อัลกุรอาน บทอัลอะฮ์ซาบ 33:33)
ความเชื่อมโยงระหว่างเหตุการณ์ “อะฮ์ลุลกิสาอ์” กับโองการดังกล่าวยังได้รับการบันทึกโดยท่านหญิงอาอิชะฮ์ ภรรยาของท่านศาสดาในตำราเศาะฮีหฺมุสลิม ซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันจากฝ่ายซุนนีโดยตรง

การยืนหยัดของท่านฟาติมะฮ์หลังการจากไปของศาสดา 
หลังจากการถึงแก่อสัญกรรมของท่านศาสดา (ศ็อลฯ) ท่านหญิงฟาติมะฮ์ (อ.) ได้ยืนหยัดอยู่เคียงข้างสามีของนางคือท่านอิมามอาลี (อ.) อย่างมั่นคงนางได้ปกป้องสิทธิ์และความยุติธรรมในสังคมมุสลิมยุคนั้นจนต้องเผชิญกับความรุนแรงและการทำร้ายทางร่างกาย ซึ่งตามรายงานจากแหล่งประวัติศาสตร์หลายแห่งได้ระบุว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้นางได้รับบาดเจ็บสาหัสและถึงแก่มรณกรรมในที่สุด
เหตุการณ์ดังกล่าวได้ก่อให้เกิด “ความโกรธของท่านฟาติมะฮ์ (อ.)” ต่อบุคคลบางกลุ่มในยุคนั้นซึ่งท่านเองได้กล่าวถึงไว้ในหะดีษของนางและเป็นประเด็นสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงท่าทีทางศรัทธาและความยึดมั่นในความจริงของเธอ

ความเจ็บปวดและความโกรธของท่านหญิงฟาติมะฮ์ (อัลลอฮ์ทรงประทานสันติแก่เธอ) ต่ออบูบักรและอุมัร
จากบันทึกหะดีษหลายฉบับที่ถ่ายทอดจากท่านหญิงฟาติมะฮ์ อัซ-ซะฮ์รอ (สลามุลลอฮิอะลัยฮา)ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่านางได้รับความเจ็บปวดและความทุกข์ใจจากการกระทำของอบูบักรและอุมัร ซึ่งเป็นสองคอลีฟะฮ์คนแรกของอิสลามและได้แสดงออกถึงความไม่พอใจของตนต่อบุคคลทั้งสองอย่างเปิดเผย เช่น
1. คำตำหนิของท่านหญิงฟาติมะฮ์ (อ.) ต่ออบูบักรและอุมัร
ในรายงานหนึ่งมีการบันทึกว่าหลังจากที่ท่านหญิงฟาติมะฮ์ (อ.) ถูกทำให้เจ็บปวดและเสียใจ นางได้กล่าวต่ออบูบักรและอุมัรว่า:
«أَ لَمْ تَسْمَعَا رَسُولَ اللّٰهِ صَلَّى اللّٰهُ عَلَیْهِ وَآلِهِ وَسَلَّمَ یَقُولُ: رِضَا فَاطِمَهَ مِنْ رِضَایَ وَسَخَطُ فَاطِمَهَ مِنْ سَخَطِی؟»
“พวกท่านทั้งสองไม่ได้ยินหรือว่า ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ วะอาลิฮิ วะสัลลัม) เคยตรัสว่าความพึงพอใจของฟาติมะฮ์คือความพึงพอใจของฉัน และความโกรธของฟาติมะฮ์คือความโกรธของฉันหรือ?”
อบูบักรและอุมัรตอบว่า “ใช่ เราได้ยินท่านศาสดากล่าวเช่นนั้น”
จากนั้นท่านหญิงฟาติมะฮ์ (อ.) จึงกล่าวว่า:
«إِنِّی أُشْهِدُ اللّٰهَ وَمَلَائِکَتَهُ أَنَّکُمَا قَدْ أَسْخَطْتُمَانِی، وَلَئِنْ لَقِیتُ النَّبِیَّ صَلَّى اللّٰهُ عَلَیْهِ وَآلِهِ وَسَلَّمَ لَأَشْکُونَّکُمَا إِلَیْهِ»
“ข้าขออ้างพระเจ้าและเหล่ามลาอิกะฮ์เป็นพยานว่าพวกท่านทั้งสองได้ทำให้ฉันโกรธและเจ็บปวด และแน่นอนหากฉันได้พบกับท่านศาสดา (ศ็อลฯ) อีกครั้ง ฉันจะนำเรื่องของพวกท่านทั้งสองไปฟ้องต่อท่านแน่นอน” (แหล่งอ้างอิง: إثبات الهداه بالنصوص و المعجزات, ج۳, ص۴۰۶)
คำกล่าวนี้สะท้อนอย่างชัดเจนว่าท่านหญิงฟาติมะฮ์ (อ.) รู้สึกถึงความอยุติธรรมและความเสียใจอย่างลึกซึ้งจากการกระทำของบุคคลทั้งสอง จนถึงขั้นประกาศว่า จะนำเรื่องไปร้องเรียนต่อท่านศาสดาในวันแห่งการพบพาน
2. คำเตือนของท่านหญิงฟาติมะฮ์ (อ.) ที่มีต่ออุมัร
ในอีกหะดีษหนึ่งท่านหญิงฟาติมะฮ์ (อ.) ได้แสดงถึงระดับความไม่พอใจที่มีต่ออุมัร บุตรของค็อตฏอบ ถึงขั้นที่นางคิดจะสาปแช่งเขาแต่ได้ละเว้นไว้เพราะเกรงว่าผู้บริสุทธิ์จะได้รับผลแห่งภัยพิบัติร่วมด้วย
นางกล่าวว่า:
«وَ اللّٰهِ یَا ابْنَ الْخَطَّابِ لَوْلَا إِنِّی أَکْرَهُ أَنْ یُصِیبَ الْبَلَاءُ مَنْ لَا ذَنْبَ لَهُ، لَعَلِمْتَ أَنِّی سَأُقْسِمُ عَلَى اللّٰهِ ثُمَّ أَجِدُهُ سَرِیعَ الْإِجَابَهِ»
“ขอสาบานต่อพระผู้เป็นเจ้าโอ้บุตรแห่งค็อตฏอบ! หากฉันไม่กลัวว่าความทุกข์ภัยจะตกแก่ผู้บริสุทธิ์ ฉันจะขอพรต่ออัลลอฮ์เพื่อลงโทษเจ้า และเจ้าจะได้เห็นว่าพระองค์ทรงตอบคำขอของฉันอย่างรวดเร็วเพียงใด” (แหล่งอ้างอิง: الکافی، ج۱، ص۴۶۰)
คำพูดนี้แสดงถึงความศรัทธาอันมั่นคงและอำนาจแห่งการดุอาอ์ของท่านหญิงฟาติมะฮ์ (อ.) ซึ่งเป็นที่ยอมรับในหมู่มลาอิกะฮ์และบรรดาผู้ศรัทธาว่าคำขอของเธอย่อมได้รับการตอบรับอย่างรวดเร็วจากพระผู้เป็นเจ้า


บทสรุป: จากรายงานหะดีษทั้งสองนี้ ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าท่านหญิงฟาติมะฮ์ (อัลลอฮ์ทรงประทานสันติแก่เธอ) ได้รับความเดือดร้อนและความเศร้าโศกจากการกระทำของอบูบักรและอุมัร และได้แสดงออกถึงความไม่พอใจอย่างเปิดเผย
นางถึงกับประกาศต่อหน้าผู้คนว่า พวกเขาทั้งสองได้ทำให้เธอโกรธและจะนำเรื่องไปฟ้องต่อท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ในวันแห่งการพบพานซึ่งความโกรธของท่านหญิงฟาติมะฮ์ (อ.) ตามคำตรัสของท่านศาสดานั้น หมายถึงความโกรธของท่านศาสดาเองและความโกรธของท่านศาสดาก็คือความไม่พอพระทัยของอัลลอฮ์
ดังนั้นความไม่พอใจของท่านหญิงฟาติมะฮ์ (อ.) ต่อคอลีฟะฮ์ทั้งสองจึงมิใช่เพียงเหตุการณ์ทางอารมณ์ส่วนตัวหากแต่เป็นเหตุการณ์ทางศรัทธาและจริยธรรม ที่สะท้อนถึงการยืนหยัดเพื่อความยุติธรรมและความจริง

อ้างอิง:
1. صحیح البخاری، ج۶، ص۱۱۹
2. صحیح البخاری، ج۶، ص۱۲۱
3. صحیح مسلم، ج۴، ص۱۹۰۳
4. إثبات الهداه بالنصوص و المعجزات، ج۳، ص۴۰۶
5. الکافی، ج۱، ص۴۶۰

บทความโดย เชคยูซุฟ เพชรกาหรีม

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม