ลัยละตุลก็อดรฺ (รัตติกาลแห่งอานุภาพ) ตอนที่ 3

ลัยละตุลก็อดรฺ (รัตติกาลแห่งอานุภาพ) ตอนที่ 3

 

โดย ฮุจญตุลอิสลาม วัลมุสลีมีน ซัยยิด สุไลมาน ฮูซัยนี

ในบริบทของ

فزت ورب الكعبة

“วันนี้ ข้าประสบความสำเร็จแล้ว โอ้พระผู้อภิบาลแห่งกะอบะฮฺ”

 

อิมามอะลี(อ) ประเสริฐกว่านบีนุฮฺ(อ)

 

หลังจากนั้น ‘เศาะศออะฮ์ บิน ซูฮาน’ ได้ถามคำถามที่ 2

 

โอ้อะลี “ระหว่างท่านกับนบีนุฮ์ (อ) ใครประเสริฐกว่ากัน?”

 

แน่นอน ! ผู้ถามเป็นถึงอัครสาวกคนหนึ่ง ย่อมรู้ว่า จะถามอะไรดี เมื่ออิมามรู้สึกตัวขึ้นมาในสภาพที่บาดเจ็บสาหัสอีกครั้งหนึ่ง

 

อิมามอะลี(อ) กล่าวว่า “ฉันประเสริฐกว่าแน่นอน”

 

‘เศาะศออะฮ์ บิน ซูฮาน’ ได้ถามต่อไปว่า... “ท่านประเสริฐมากกว่านบีนุฮ์ (อ) ตรงไหน?”

 

ท่านอิมามอะลี(อ) บอกว่า “ฉันมีความซอบัร ความอดทน สูงกว่านบีนุฮ์เป็นอย่างมาก”

 

ความประเสริฐของมนุษย์อยู่ตรงนี้ ความประเสริฐแรกของมนุษย์ คือ มนุษย์ที่ยึดสันโดษ

 

สันโดษ คือ ไม่หลงไหลในความสุขบนดุนยาจนเลยเถิด แต่ละคนก็ทำในระดับของตัวเอง แต่ละคนมีระดับของตนเอง อัลลอฮฺ(ซบ)ทรงทดสอบมนุษย์ตามมาตรฐานของตัวตนของเขา

 

อิมามอะลี(อ)นั้น คือ มาตรฐานสูงสุดของมนุษย์

 

ฉะนั้น ความสันโดษ ความซอบัรก็อีกเช่นกัน ความประเสริฐต่างๆของมนุษย์จะอยู่ในสิ่งต่างๆเหล่านี้

 

ดังนั้น เมื่อ ‘เศาะศออะฮ์ บิน ซูฮาน’ ได้ถามอิมามว่า

 

“สิ่งใดกันที่จะพิสูจน์ความประเสริฐของท่านที่มีเหนือนบีนุฮ์ (อ)”

 

ซึ่งความจริงแล้ว นบีนุฮ์(อ)มีชีวิตนับพันปี ได้เผยแพร่ศาสนา 950 ปี แต่นั้นเป็นเพียงความนานของช่วงเวลาเท่านั้น แต่บททดสอบ หาหนักหน่วงไม่!

 

ประชาชาติของศาสดานุฮ์(อ) เพียงแค่ปฏิเสธคำเชิญชวนและเยาะเย้ยถากถางท่านเท่านั้น ความอดทนที่อดทนมาถึง 900 กว่าปี ก็หมดลง

จึงได้ยกมือขอดุอาอฺว่า

 

وَقَالَ نُوحٌ رَبِّ لَا تَذَرْ عَلَى الْأَرْضِ مِنَ الْكَافِرِينَ دَيَّارًا

(ซูเราะห์นุฮ์ โองการที่ 26)

 

ความว่า “และนูฮ์ได้กล่าวว่า ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงอย่าให้เหลือเผ่าพันธุ์ของพวกกาเฟรนี้เลย จงล้างเผ่าพันธุ์ของพวกเขาทั้งหมด”

 

950 กว่าปีที่ศาสดานุฮ์ ได้เหน็ดเหนื่อย ขอพระองค์ทรงอย่าปล่อยให้พวกปฏิเสธศรัทธาหลงเหลืออยู่ในแผ่นดินนี้เลย

 

 

อัลลอฮฺ(ซบ)ก็ได้ตอบรับดุอาอฺของ นบีนุฮ์(อ) แต่ในรายละเอียดนั้น อัลลอฮ(ซบ.)หาได้พึงพอใจในเหตุการณ์นี้ไม่ แต่พระองค์ให้สิทธิ์นั้นและตอบรับในดุอาอฺอันนี้ เมื่อรู้ว่าความอดทนของนุฮ์มีเท่านั้น อัลลอฮ์(ซบ)จึงล้างโลกไปครั้งหนึ่งตามคำขอของนุฮ์(อ)

 

หลังจากนั้น ท่านอิมามอะลี(อ) จึงได้อธิบายว่า ชีวิตของฉันนั้น ได้พบกับความเจ็บปวดอย่างมากมายจากประชาชาตินี้ สิ่งที่ประชาชาตินี้ได้ทำกับฉันนั้น ร้อยนุฮ์ พันนุฮ์ก็ทำไม่ได้ แต่ฉันไม่เคยสาปแช่งประชาชาตินี้ แม้เพียงคำเดียว

 

เราก็พอรู้ว่า ตลอดชีวิตของท่านอิมามอะลี (อ) สิ่งเกิดขึ้นกับท่าน มีทั้งความฉ้อฉล การกดขี่ ความโหดร้าย สารพัดที่ประชาชาตินี้ได้ทำกับอิมามอาลี (อ) หนักหน่วงจนขนาดที่บางเรื่องราวนั้น อิมามอะลี(อ)เกือบจะหมดความอดทน แต่เพื่อศาสนา และเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่า อิมามกลับเลือกที่จะอดทนเสียมากกว่า

 

และเรื่องที่ทำให้ท่านเกือบหมดความอดทน คือ ช่วงที่เหล่าทรราชบุกมาที่บ้าน บุกมาทุบตีท่านหญิงฟาฏิมะฮ์อัซซะรออฺ(อ) ภรรยาที่รักของท่านผู้เป็นแก้วตาดวงใจของท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ็อลฯ) นั้นเป็นเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น ที่ทำให้ฉันเกือบหมดความอดทน

 

แต่ในเมื่อท่านได้เคยให้สัญญาต่อท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ็อลฯ ) เมื่อครั้งญิบรออีล(อ) ที่ได้ส่งข่าวมาว่า จะเกิดเรื่องราวต่างๆที่เกี่ยวกับท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ)

ท่านจึงกล่าวว่า ฉันจึงได้อดทนต่อเรื่องราวเหล่านั้น โดยมิได้ใช้อำนาจเหนือธรรมชาติใดๆที่อัลลอฮ(ซบ)ให้มาในขณะที่เหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้น และ เมื่ออัลลอฮ(ซบ)ต้องการจะเห็นความอดทน ฉันก็เลือกที่จะอดทน

 

จะเห็นได้ว่า มีฮะดีษรายงานคุณลักษณะความประเสริฐของอิมามอาลี(อ)ไว้อย่างมากมายและหนึ่งในฮะดิษนั้น รายงานว่า

 

หากต้นไม้ทั้งหมดเป็นปากกา ทะเลทั้งหลายเป็นน้ำหมึก มนุษย์และญินทั้งหมดเป็นตำราและบัญชีบันทึก ก็ไม่อาจพรรณนาถึงเกียรติยศต่างๆ ของท่านอะลี อิบนี อบี ฏอลิบ(อ) ได้หมด

 

(อัลมานากิบ อัลมุวัฟฟัก อิบนิ อะฮ์มัด คอรัซมี หน้า 32)

 

แน่นอน ! เรื่องราวความอดทนต่างๆของท่านอิมามอาลี(อ)มิได้มีเพียงเท่านี้ แต่ยังมีอีกมากมาย

 

ขอขอบคุณห้องมหา'ลัย คมความคิด