เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

ลัยละตุลก็อดรฺ (รัตติกาลแห่งอานุภาพ) ตอนที่ 7

1 ทัศนะต่างๆ 02.0 / 5

ลัยละตุลก็อดรฺ (รัตติกาลแห่งอานุภาพ) ตอนที่ 7

 

ปาฐกถาพิเศษโดยท่านฮุจญตุลอิสลาม วัลมุสลีมีน ซัยยิด สุไลมาน ฮูซัยนี

 

ในบริบทของ…

فزت ورب الکعبة

 

“วันนี้ ข้าประสบความสำเร็จแล้ว โอ้พระผู้อภิบาลแห่งกะอบะฮฺ”

 

اللهم صل علی محمد وآل محمد وعجل فرجهم

 

 

หัวข้อ :  อิมามอะลี(อ) ประเสริฐกว่านบีอีซา (อ)

 

 

และคำถามสุดท้าย ‘เศาะศออะฮ์’ ได้ถามว่า….

” ระหว่างท่าน(อะลี) กับนบีอีซา(อ)ใครประเสริฐกว่ากัน?”

ซึ่ง ตรงนี้ อิมามอะลี(อ)จะบอกประเด็นใดก็ได้ ที่ท่านประเสริฐกว่านบีอีซา(อ) ความจริงแล้วไม่ใช่แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว เพราะอิมามประเสริฐกว่าทุกเรื่อง แต่อิมามจะเอาประเด็นไหนออกมา

 

เรามาติดตามคำตอบจากท่านอิมามกันต่อไป

‘เศาะศออะฮ์ บิน ซูฮาน’ จึงถามต่อ…

“ตรงไหนที่ท่านประเสริฐกว่าอีซา (อ)”

เพราะ นบีอีซา(อ) ผู้เป็น อูลุลอัซมฺ นบีผู้เป็นรุฮุลลอฮ์โดยตรง

นบีทุกคน คือ รุฮุลลอฮ์ แต่นี่คือ รุฮุลลอฮ์โดยตรง เกิดมาโดยไม่มีบิดา

 

อิมามอะลี(อ) ตอบว่า…

“อัลลอฮ์(ซบ)ให้เกียรติฉันมากกว่าอีซา”

 

‘เศาะศออะฮ์’ ถามว่า…

“ตรงไหนที่อัลลอฮ์(ซบ)ให้เกียรติท่านมากกว่าอีซา”

 

อิ มามอะลี(อ) ตอบว่า ท่านหญิงมัรยัมเป็นหนึ่งในหญิงที่เป็นซัยยิดะตุลนิซาอิลอาละมีน(นายหญิงแห่ง สากลจักรวาล) เพราะท่านเป็นประมุขแห่งสตรีในยุคของนาง อัลลอฮ์(ซบ)ได้เชิญนางไปอยู่ในวิหารอันศักดิ์สิทธ์ โบสถ์ยิวในเยรูซาเล็ม

 

 

โบสถ์ยิวดังกล่าวเป็นวิหารศักดิ์สิทธิ์

 

 

– เป็นวิหารสำคัญที่ท่านนบีมูซา (อ) ได้บูรณะขึ้นมา

 

 

– เป็นวิหารสำคัญที่นบีดาวูด (อ) ได้สร้างขึ้นมา

 

 

– เป็นวิหารสำคัญที่ถูกสร้างโดยนบีสุไลมาน (อ) และก่อนนั้นเป็นวิหาร ศักดิ์สิทธิ์ “ที่ศักดิ์สิทธิ์” เพราะท่านหญิงมัรยัมนั้น ได้ถูกเชิญไปอยู่ในนั้น

 

 

เมื่อ ท่านหญิงมัรยัมตั้งครรภ์ คือ ตั้งครรภ์แบบรูฮ์โดยตรง ไม่ใช่ตั้งครรภ์แบบมีสามี คือ เป็นการตั้งครรภ์แบบบริสุทธิ์ร้อยเปอร์เซนต์ แต่ครั้นถึงกำหนดเวลาคลอด อัลลอฮ์(ซบ)ได้เชิญนางให้ออกไปจากวิหารอันนั้น

 

อัล ลอฮ์(ซบ) ได้เชิญให้ออกไปจากวิหารอันนั้น และตรัสว่าตรงนี้ไม่ใช่ที่คลอดบุตร จงออกไปจากวิหารอันนี้ เจ้าไปคลอดบุตรให้เสร็จก่อนแล้วค่อยกลับเข้ามา แต่สำหรับมารดาของฉัน

(‘ท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ บินติ อะซัด’) นั้น อัลลอฮ์ (ซบ)ได้เชิญนางให้เข้าไปคลอดฉันในกะฮ์บะฮ์

 

 

ริ วายะฮฺรายงานว่า ‘ท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ บินติ อะซัด’ ได้ยินเสียงเรียก (ได้รับการดลใจ) ให้เข้าไปในกะอ์บะฮ์ ทั้งๆที่ท่านหญิง ยังไม่รู้เลยว่าจะเข้าไปในกะอฺบะฮ์อย่างไร?

 

เพราะกะอฺบะฮ์มีกุญแจ แต่เมื่อท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ บินติ อะซัดถึงกะอฺบะฮ์กำแพงก็แยกออกมา ให้นางเข้าไปในตัวอาคารของกะอฺบะฮ์

 

รายงานเรื่องนี้ ได้รับการยืนยันทั้งชีอะห์ทั้งซุนนีอย่างเป็นเอกฉันท์ แม้แต่นักบูรพาคดี

“โอเรนต์ตาลิส” ก็ได้บันทึกไว้เหมือนกันหมด ซึ่งบรรดาศัตรูของอะฮ์ลุลบัยต์ (อ) พยายามที่จะบิดเบือนและปิดเรื่องนี้ แต่ไม่สำเร็จ

 

“เมื่อท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ บินติ อะซัด ถูกเชิญเข้าไปในตัวกะอฺบะฮ์และเมื่อนางได้เข้าไปในตัวกะอฺบะฮ์ กำแพงได้ปิดกลับ”

 

ในขณะที่ความศักด์สิทธิ์ของวิหารกะอฺบะฮ์นั้น มีความศักดิ์สิทธิ์กว่าวิหารในเยรูซาเล็ม ที่ท่านหญิงมัรยัมอาศัยอยู่ระยะหนึ่ง

 

 

เหตุผล ที่วิหารกะอ์บะฮ์ศักดิ์สิทธ์กว่า เพราะเป็นวิหารแรก “เอาวาลัลบัยตฺ”

 

“เอาวาลัลบัยตฺ” เป็นบ้านอัลลอฮ์ (ซบ) หลังแรกที่ถูกสร้างมาในโลกนี้ คือ กะอฺบะฮ์ สร้างมาโดย

นบีอิบรอฮีม(อ) หลังจากนั้นวิหารอื่น คือ วิหารลูกเท่านั้น

 

กะ อฺบะฮ์ คือ วิหารแม่ วิหารอื่นๆเกิดขึ้นมาภายหลัง แต่ศักดิ์สิทธิ์สักขนาดไหน ก็ยังไม่ศักดิ์สิทธิ์เท่ากับอาลี(อ) เพราะอัลลอฮ์(ซบ) ได้เชิญท่านอิมามอะลี(อ) เข้าไปถือกำเนิดในนั้น

 

อิ มามอะลี(อ) เป็นมนุษย์คนเดียวในหน้าประวัติศาสตร์ที่เกิดในฮะรัมของอัลลอฮ(ซบ) ทั้งหมดที่มีอยู่ทั้งโลก อิมามอะลี(อ)เป็นมนุษย์คนเดียวเท่านั้นที่ได้รับเกียรตินี้ แม้แต่ นบีอีซา(อ) นั้นก็ไม่ได้รับเกียรติอันนี้

 

 

ซึ่ง เรื่องสุดท้ายต้องการชี้ให้เห็นว่า การให้เกียรติของอัลลอฮ์(ซบ) สำหรับบุคคลแบบนี้ต้องเกิดที่นี่เท่านั้น หมายถึง ถูกเลือกให้ถือกำเนิดในบ้านของอัลลอฮ์(ซบ)อย่างแท้จริงเท่านั้น

 

 

นี่คือ บุคคลที่พวกเราอยู่ในสำนักคิดของเขา

 

นี่คือ บุคคล ที่พวกเราบอกว่า เรายึดตามแนวทางของเขา

 

เมื่อ ‘เศาะศออะฮ์ บิน ซูฮาน’ได้รับคำตอบจนเป็นที่พอใจแล้ว เขาก็ได้เดินออกไปจากบ้าน

ท่านอิมามอะลี อิบนิ อบีฎอลิบ

 

ค่ำคืนนี้เป็นคืนที่ยี่สิบเอ็ดแห่งเดือนรอมฎอน เป็นคืนสุดท้ายที่มวลมนุษยชาติจะได้ใช้ประโยชน์

 จะ ได้ใช้ความรู้ จะได้ใช้แบบอย่าง จะได้ใช้ทุกสิ่งทุกอย่างจากอิมามอะลี(อ) มีเรื่องราวมากมายที่ท่านยังไม่ได้บอก มีเรื่องราวมากมายที่ท่านยังไม่ได้เปิดเผย

 

ฉะนั้น แม้แต่คืนนี้ ซึ่งเป็นเวลาที่วิกฤติที่สุดแล้ว ท่านยังบอกว่า…

 

سلونى قبل ان تفقدوني

“จงถามฉันเถิด ก่อนที่จะฉันจะจากลาเจ้า”

 

 

ท่าน ถูกฟันในค่ำคืนที่สิบเก้า และท่านเป็นชะฮีดในคืนที่ยี่สิบเอ็ดตั้งแต่ค่ำคืนที่สิบเก้า จนถึงค่ำคืนที่ยี่สิบเอ็ดนั้น ได้เกิดเรื่องราวต่างๆอย่างมากมาย

 

 ขอขอบคุณเพจมหา'ลัย คมความคิด

 

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม