รู้จักอะฮ์ลุลบัยต์ เรื่องชีวประวัติโดยสังเขปของอิมามญะอ์ฟัร อัศศอดิก (อ)

รู้จักอะฮ์ลุลบัยต์ เรื่องชีวประวัติโดยสังเขปของอิมามญะอ์ฟัร อัศศอดิก (อ)

 

อิมามท่านที่หกแห่งวงศ์วานของศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) คือ

อิมามญะอ์ฟัร อัศศอดิก ซึ่งมีบทบาทที่สำคัญต่อโลกอิสลามเป็นอย่างมาก

นามของท่าน คือ              ญะอฺฟัร ฉายานาม        อัซซอดิก

สมญานาม       อบูญะอฺฟัร

ชื่อบิดา          อิมามมุฮัมมัด บินอะลี  อัลบากิร(อิมามท่านที่ห้า) (อ.)

ชื่อมารดา        ท่านหญิงอุมมุฟัรวะฮ  วันประสูติ        17

  เราะบิอุลเอาวัล  ฮ.ศ. 80

สถานที่ประสูติ      ณ เมืองมะดีนะฮฺ

อัลมุเนาวะเราะฮฺ

ชะฮาดะฮ์ เมื่อวันที่        25  เชาวาล ฮ.ศ. 148

สถานที่ฝังร่างอันบริสุทธิ์ของท่านอิมามญะอ์ฟัร  ณ สุสานอัล บะกีอฺ  เมืองมะดีนะฮฺ อัลมุเนาวะเราะฮฺ

 

อิมามญะอ์ฟัร อัศศอดิก (อ.) ได้กล่าวถึงมารดาของตนไว้ว่า มารดาของข้าพเจ้าเป็นผู้มีความศรัทธา มีความสำรวมตนต่อพระเจ้า และมีความประพฤติดีงาม อัลลอฮฺทรงรักบรรดาผู้ประพฤติดี

 

อิมามญะอฺฟัร (อ.) ได้ชีวิตอยู่ร่วมกับท่านอิมามซัยนุลอาบิดีน (อ.) ผู้เป็นปู่นานถึง 15 ปี และอยู่กับท่านอิมามอัลบากิร (อ.) ผู้เป็นบิดานานถึง 34 ปี

 

ผู้คนทั้งหลายเรียกขานท่านฉายานามหลายอย่างเช่น อัซซอบิร (ผู้มีความขันติ) อัลฟาฎิล (ผู้มีเกียรติ) อัฏฏอฮิร (ผู้สะอาด) แต่ที่รู้จักกันจนเป็นที่แพร่หลายมากที่สุดก็คือ อัศศอดิก (ผู้สัจจะ) ฉายานามทั้งหมดล้วนเป็นหลักฐานบ่งบอกถึงบุคลิกภาพทานด้านจริยธรรม และวิถีการดำเนินชีวิตที่ดีงามของท่านอิมาม (อ.) ทั้งสิ้น

 

เมื่ออิมามฮุเซน (อ.) ได้พลีชีพแล้ว ความอธรรมต่างๆ ที่ผู้ปกครองในตระกูลอุมัยยะฮฺได้กระทำต่อบรรดามุสลิม เป็นสาเหตุทำให้อำนาจการปกครองของพวกเขาต้องเสื่อมและล่มสลาย และเปิดทางให้กับผู้ปกครองในตระกูลอับบาสียะฮฺ ซึ่งหลอกลวงประชาชนโดยพวกเขาประกาศเชิญชวนให้ประชาชนสนับสนุนบรรดาอะฮฺลุลบัยตฺ (อ.) แต่หลังจากพวกเขาได้อำนาจมาอยู่ในมือได้ไม่นาน ก็กลับกลายเป็นศัตรูที่ร้ายกาจของอะฮฺลุลบัยตฺ (อ.) ในทันที

 

อิมามศอดิก (อ.) ได้ใช้ชีวิตอยู่กับความอยุติธรรมของวงศ์อุมัยยะฮฺเป็นเวลานานมากกว่า  40 ปี และยังได้ใช้ชีวิตอยู่ใสมัยการปกครองของวงศ์อับาซซียะฮฺอีกมากกว่า 20 ปี เป็นการดำเนินชีวิตที่ห่างไกลจากบทบาททางการเมืองอย่างสิ้นเชิง เพื่อปลูกฝังหลักการศรัทธาให้มั่นคงในจิตใจของผู้คนทั้งหลาย อิมามศอดิก (อ.) ยังได้เผยแผ่จริยธรรม และหลักความเชื่อของอิสลามในสมัยที่หลักความเชื่อที่ปฏิเสธพระผู้เป็นเจ้า และความเชื่อที่บิดเบือนกำลังแพร่ระบาด อิมามศอดิก (อ.)  ได้ยืนหยัดต่อสู้กับพวกปฏิเสธพระเจ้าและพวกไร้ศาสนา และในสมัยของท่านนั้นเองที่มัซฮับอะฮฺลุลบัยตฺ (อ.) ได้แพร่ขยายตัวออกไปอย่างกว้างขวาง

 

ข้อพิสูจน์แห่งอัลลอฮ์

 

ซัยดฺ บุตรของอะลี  บินฮุเซน นักปฏิวัติสังคมผู้มีชื่อเสียงกล่าวว่า ทุกสมัยจะมีบุรุษคนหนึ่งจากพวกเรา อะฮฺลุลบัยตฺ เป็นผู้ที่อัลลอฮฺ (ซ.บ) ทรงทำเป็นข้อพิสูจน์แก่ปวงบ่าวของพระองค์เสมอ และข้อพิสูจน์สำหรับยุคสมัยของเราก็คือบุตรของพี่ชายของข้าพเจ้านั่นเอง ญะอฺฟัร อัศศอดิก บุตรของมุฮัมมัด อัลบากิร แน่นอน คนที่ปฏิบัติตามเขาจะไม่หลงผิด และคนที่ขัดแย้งกับเขาจะไม่ได้รับทางนำ

 

มาลิก บุตรของอะนัส อิมามมัซฮับมาลิกี ได้กล่าวถึงท่านอิมามว่า ขอสาบานต่ออัลลอฮฺ (ซ.บ)  สายตาของข้าพเจ้ายังไม่เคยเห็นใครเหนือกว่าญะอฺฟัร บินมุฮัมมัด ในด้านความสมถะ มีเกียรติ เคร่งครัดในการเคารพภักดีและสำรวมตน ข้าพเจ้าเคยมุ่งไปหาท่าน ท่านได้ให้เกียรติและจูบข้าพเจ้า

 

อบูฮะนีฟะฮฺ อิมามมัซฮับ ฮะนะฟี เคยเป็นศิษย์ของท่านอิมามศอดิก (อ.)ถึง สองปี อบูฮะนีฟะฮฺกล่าวว่า หากไม่มีสองปีนี้แน่นอน นุอฺมาน (อบูฮะนีฟะฮฺ) ต้องพินาศอย่างแน่นอน

 

การขอบคุณต่ออัลลอฮ์(ซ.บ)

 

สหายของท่านอิมามศอดิก (อ.) คนหนึ่งกล่าวว่า ข้าพเจ้าเคยอยู่ที่เมืองมะดีนะฮฺกับอบูอับดุลลอฮฺ (หมายถึงอิมามศอดิก) ขณะที่ท่านขี่ลาของท่าน เมื่อเราไปถึงใกล้ตลาด

อิมามศอดิก (อ.) ได้ลงจากหลังลา แล้วก้มกราบ (สุญูด) ต่ออัลลอฮฺ (ซ.บ) ท่านอยู่ในท่าสุญูดนานมาก ส่วนข้าพเจ้าก็รอท่านอยู่ แล้วท่านก็เงยศีรษะขึ้น ข้าพเจ้าจึงกล่าวว่า ข้าพเจ้าอุทิศตนเป็นผู้รับใช้ท่าน เมื่อสักครู่นี้ท่านลงจากหลังลาแล้วสุญูดเป็นเวลานานเป็นเพราะสาเหตุอันใด อิมามศอดิก (อ.) ตอบว่า เพราะว่าฉันรำลึกถึงความโปรดปรานของอัลลอฮฺ (ซ.บ) ที่ทรงประทานให้แก่ฉัน ดังนั้น ฉันจึงสุญูดด้วยความขอบคุณต่อพระองค์

 

ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของอิมามศอดิก(อ.)

 

สหายของอีกท่านหนึ่งของท่านกล่าวว่า ข้าเจ้าเคยเห็นอบูอับดุลลอฮฺ (อ.) ถือพลั่วไว้ในมือ แล้วนุ่งผ้าอย่างรัดกุม ท่านกำลังทำงานในสวนของท่านอยู่ แถมมีเหงื่อไหลออกมาจนเปียกโชก ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงกล่าวกับท่านว่า ข้าพเจ้าได้ถูกกำหนดมาเพื่อรับใช้ท่าน โปรดยื่นพลั่วมาให้ข้าพเจ้าเพื่อช่วยเหลือท่านในการทำงานเถิด ท่านได้กล่าวกับข้าพเจ้าว่า แท้จริงฉันชอบที่เป็นคนทนทุกข์กับความร้อนของแสงแดดในการทำงานเลี้ยงชีพ

 

วันหนึ่งท่านอิมามศอดิก (อ.) ได้ส่งคนรับใช้ไปทำธุระบางอย่าง แต่เขาได้ล่าช้ามาก ดังนั้น อิมาม (อ.) จึงออกไปตามหาและพบว่าเด็กรับใช้คนนั้นกำลังหลับอยู่ ดังนั้น อิมาม (อ.) จึงนั่งโบกลมให้เขาทางด้านศีรษะ จนกระทั่งเขาตื่น อิมาม (อ.) จึงกล่าวด้วยความเมตตาว่า เจ้านอนทั้งกลางวันและกลางคืนเชียวหรือ กลางคืนเป็นสิทธิของเธอที่จะนอนพักผ่อน ส่วนกลางวันเป็นสิทธิของเราที่เธอจะต้องทำงาน

 

ท่านอิมาม (อ.) ได้ว่าจ้างคนมาทำสวน ครั้นเลิกงานแล้วอิมามศอดิก (อ.) ได้สั่งแก่มุอฺตัมคนรับใช้ว่า จงมอบค่าจ้างให้คนเหล่านั้นก่อนที่เหงื่อของพวกเขาจะแห้ง

 

ในยามค่ำคืน ท่านอิมาม (อ.) จะจัดการนำกระสอบที่บรรจุขนมแป้งสาลี เนื้อและเงินดิรฮัมมา แล้วแบกขึ้นบ่าเพื่อนำไปแจกจ่ายชาวเมืองมะดีนะฮฺผู้ที่มีความเดือดร้อน ทั้งๆ ที่พวกเขาไม่รู้จักท่านเลย และเมื่ออิมามศอดิก (อ.) สิ้นชีวิต พวกเขาก็ไม่พบเห็นที่ทำเช่นนั้นอีกเลย เมื่อนั้นเองผู้คนจึงรู้ว่าบุคคลที่แบกสิ่งของนำมาแจกจ่ายแก่พวกตนในยามค่ำคืนก็คือ ท่านอิมามญะอฺฟัร อัศศอดิก (อ.) นั่นเอง

นี่คือ แบบอย่างในการดำเนินชีวิตเพียงบางส่วนของท่านอิมามญะอ์ฟัร อัศศอดิก (อ.)

 

เรียบเรียงโดย  อะบูอะลี

ขอบคุณเนื้อหาจากเว็บไซต์อัชชีอะฮ์