เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม

จริยธรรมในการเคารพภักดีพระผู้เป็นเจ้า ตอนที่ 3

0 ทัศนะต่างๆ 00.0 / 5

จริยธรรมในการเคารพภักดีพระผู้เป็นเจ้า ตอนที่ 3

 

คุณลักษณะของมนุษย์ผู้สมบูรณ์

คัมภีร์อัลกุรอาน ได้แนะนำถึงคุณลักษณะต่าง ๆ เช่นนี้ไว้ภายใต้ชื่อที่สวยงามคือ “عِبادُ الرَّحْمنِ” (ปวงบ่าวของพระผู้ทรงเมตตา)

 

ก) ความอ่อนน้อมถ่อมตน

ความอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นหนึ่งในคุณลักษณะของมนุษย์ที่สมบูรณ์ (อินซานุ้ลกามิล) คัมภีร์อัลกุรอานอันจำเริญกล่าวว่า

 

وَعِبادُ الرَّحْمنِ الَّذينَ يَمْشُونَ عَلىَ الاَرْضِ هَوْناً

 

“และปวงบ่าวของพระผู้ทรงเมตตานั้น คือบรรดาผู้ซึ่งจะเดินในหน้าแผ่นดินด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน” (7)

 

ข) ความสุขุมคัมภีรภาพและความอดทนในการเผชิญกับคนโง่เขลา

คุณลักษณะอีกประการหนึ่งของมนุษย์ผู้สมบูรณ์ คือการมีความอดทนอดกลั้นต่อประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต่อกลุ่มชนที่ไม่รู้และโง่เขลา คัมภีร์อัลกุรอานกล่าวว่า

 

وَ إِذا خاطَبَهُمُ الْجاهِلُونَ قالُوا سَلاماً

 

“และเมื่อบรรดาคนโง่เขลาได้กล่าวกับพวกเขา พวกเขาก็จะ (เดินผ่านไปอย่างมีเกียรติ และ) กล่าวตอบด้วยความสันติ” (8)

 

       

ชายชาวอาหรับชนบทคนหนึ่งจากชนเผ่าบนีซะลีม ได้ไปพบท่านศาสดา (ซ็อลฯ) และกล่าวต่อท่านอย่างรุ่นแรงด้วยการไม่ให้เกียรติว่า “ท่านก็คือ พ่อมดที่มุสา ไม่มีบุคคลใดภายใต้ฟ้านี้และในแผ่นดินนี้ที่จะมุสายิ่งไปกว่าท่าน!”

       

ในขณะนั้นเอง อุมัร อิบนุค็อฏฏ๊อบ ต้องการที่จะฆ่าเขา แต่ท่านศาสดา (ซ็อลฯ) ได้กล่าวว่า “โอ้อุมัรเอ๋ย จงนั่งลงเถิด! ความอดทนอดกลั้นนั้นเป็นสิ่งที่ดีงามถึงขั้นที่บุคคลที่มีความอดทนอดกลั้นนั้นคู่ควรยิ่งต่อการเป็นศาสดา” (9)

       

เราจะเห็นว่าท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) แม้จะมีอำนาจและความสามารถสูงสุด แต่ท่านกลับตอบโต้ชายผู้กักขฬะนั้นด้วยความสุขุมและอดทนอดกลั้น ความมีอำนาจและบารมีของท่านจะไม่เป็นสาเหตุทำให้ท่านตอบโต้และแก้แค้นเอาคืนแต่อย่างใดทั้งสิ้น

 

ค) การทำอิบาดะฮ์ในยามดึกสงัด

คุณลักษณะประการที่สามของปวงบ่าวผู้แสวงหาความเป็นมนุษย์ผู้สมบูรณ์และความใกล้ชิดต่อพระผู้เป็นเจ้า คือการทำอิบาดะฮ์ การวิงวอนและภาวนาขอพรต่อพระผู้เป็นเจ้าด้วยความรักและความผูกพันในยามดึกของค่ำคืน คัมภีร์อัลกุรอานกล่าวว่า :

 

وَ الَّذينَ يَبيتُونَ لِرَبِّهِمْ سُجَّداً وَ قِياماً

 

“และบรรดาผู้ซึ่งใช้เวลาในยามค่ำคืน ในสภาพก้มกราบและยืน (ในการเคารพภักดี) พระผู้อภิบาลของพวกเขา” (10)

        

บุคคลที่มีคุณลักษณะเช่นนี้ จะถูกกล่าวถึงโดยท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) ด้วยฉายานามว่า “อัชร๊อฟ” (ผู้มีเกียรติ) โดยที่ท่านกล่าวว่า

 

أَشْرافُ أُمَّتي حَمَلَةُ الْقُرْانِ وَ أَصْحابُ اللَّيلِ

 

“บรรดาผู้มีเกียรติของประชาชาติของฉัน คือผู้ที่ปฏิบัติตาม (และให้ความสำคัญต่อ) คัมภีร์อัลกุรอาน และเป็นผู้ทำอิบาดะฮ์ในยามค่ำคืน” (11)

 

ง) การวิงวอนขอการปกป้องจากการลงโทษในนรก

 

وَ الَّذيـنَ يـَقـُولُونَ رَبَّنـَا اصـْرِفْ عـَنـّاعـَذابَ جـَهَنَّمَ إِنَّ عَذابَها كانَ غَراماً إِنَّها ساءَتْ مُسْتَقَرّاً وَ مُقاماً

 

“และบรรดาผู้ซึ่งจะกล่าวว่า โอ้พระผู้อภิบาลของเหล่าข้าพระองค์ โปรดผินการลงโทษของนรก (ญะฮันนัม) ออกไปให้พ้นจากเหล่าข้าพระองค์ด้วยเถิด เพราะการลงโทษของมันนั้น คือความทุกข์ทรมานที่ยาวนาน แท้จริงมันเป็นที่พำนักและสถานที่อยู่ที่เลวร้ายยิ่ง” (12)

 

จ) การดำรงรักษาความพอเหมาะพอควรในการใช้จ่ายและการให้

       

มนุษย์ผู้สมบูรณ์จะต้องไม่ตระหนี่ในการใช้จ่ายและการให้ และจะไม่ฟุ่มเฟือยและสุรุ่ยสุร่ายในสิ่งเหล่านั้น

 

وَالَّذينَ إِذا أَنْفَقُوا لَمْ يُسْرِفُوا وَ لَمْ يَقْتُرُوا وَ كانَ بَيْنَ ذلِكَ قَواماً

 

“และบรรดาผู้ซึ่งเมื่อพวกเขาใช้จ่าย พวกเขาจะไม่สุรุ่ยสุร่ายและจะไม่ตระหนี่ แต่จะดำรงความเป็นกลางในระหว่างนั้น” (13)

 

ฉ) ความบริสุทธิ์ใจ (อิคลาศ)

       

คุณลักษณะอีกประการหนึ่ง คือการหลุดพ้นออกจากการเป็นทาสและการพึ่งพาสิ่งอื่นจากพระผู้เป็นเจ้า และการไปถึงยังเตาฮีด (การยอมรับในเอกานุภาพของพระผู้เป็นเจ้า) อย่างบริสุทธิ์ใจ ซึ่งจะทำให้พวกเขาออกห่างจากการตั้งภาคีใด ๆ คัมภีร์อัลกุรอานกล่าวว่า

 

وَالَّذينَ لا يَدْعُونَ مَعَ اللّهِ إلهاً آخَرَ

 

“และบรรดาผู้ซึ่งจะไม่วอนขอพระเจ้าอื่นใดร่วมกับอัลลอฮ์” (14)

 

       

สถานะตำแหน่งของความบริสุทธิ์ใจ (มะกอมุลอิคลาศ) คือ ระดับขั้นที่สูงส่งที่สุดของการพัฒนาสู่ความสมบูรณ์และการจาริก (อัซซีร วัซซุลูก) สู่พระผู้เป็นเจ้า

       

ความบริสุทธิ์ใจ (อิคลาศ) มีระดับต่าง ๆ ซึ่งขั้นต่ำสุดของมันคือการที่มนุษย์จะทำให้การเคารพภักดีและการนมัสการ (อิบาดะฮ์) พระผู้เป็นเจ้าของตนเอง บริสุทธิ์จากการตั้งภาคี (ชิรก์) การโอ้อวด (ริยาอ์) และความหลงตน เขาจะต้องกระทำเพื่อพระผู้เป็นเจ้าเพียงเท่านั้น คุณค่าของการกระทำ (อะมัล) อยู่ที่การมีเจตนา (เหนียต) ที่สะอาดบริสุทธิ์จากการตั้งภาคีและการโอ้อวด ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) กล่าวต่ออบูซัรว่า

 

يا أَباذَزٍّ إِنَّ اللّهَ تَبارَكَ وَ تَعالى لا يَنْظُرُ إِلى صُوَرِكُمْ وَلا إِلى أَمْوالِكُمْ وَ لكِنْ يَنْظُرُ إِلى قُلُوبِكُمْ وَ أَعْمالِكُمْ

 

“โอ้อบูซัร! แท้จริงพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงจำเริญผู้ทรงสูงส่ง จะไม่ทรงมองดูที่หน้าตาของพวกท่านและทรัพย์สมบัติของพวกท่าน แต่ทว่าพระองค์จะทรงมองดูที่หัวใจของพวกท่าน และการกระทำต่าง ๆ ของพวกท่าน” (15)

 

       

สิ่งที่ท่านทั้งหลายได้อ่านไปนั้นเป็นเพียงบางส่วนจากคุณลักษณะต่าง ๆ แห่งความสมบูรณ์ของปวงบ่าวผู้เป็นคนดีและมีคุณธรรมของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งมีปรากฏอยู่ในหลายโองการของคัมภีร์อัลกุรอาน เมื่อคัมภีร์อัลกุรอานอันจำเริญบรรยายถึงบรรดาปวงบ่าวของพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเมตตา ว่ามีคุณลักษณะต่าง ๆ แห่งความสมบูรณ์เช่นนี้ เราสามารถจะสรุปผลได้ว่า การอิบาดะฮ์ (การเคารพภักดีและการนมัสการพระผู้เป็นเจ้า) มีความสัมพันธ์โดยตรงกับกะม้าล (ความสมบูรณ์) บรรดาผู้ที่มุ่งแสวงหาความสมบูรณ์ที่แท้จริงนั้นจะไปถึงยังอุดมคติและความมุ่งหวังของตนได้ด้วยการเคารพภักดีและการนมัสการต่อพระผู้เป็นเจ้า และบรรดาผู้เคารพภักดีพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงก็จะต้องเสริมสร้างและพัฒนาคุณลักษณะที่สวยงามของความเป็นมนุษย์ให้เกิดขึ้นในตัวเอง เพื่อที่พวกเขาจะได้ไปถึงตำแหน่งอันสูงส่งของความเป็นบ่าว (อุบูดียะฮ์) ซึ่งนั่นก็คือความเป็นมนุษย์ผู้สมบูรณ์ (อินซานุ้ลกามิล)

 

       

หวังเป็นอย่างยิ่งว่า พวกเราจะได้ย่างก้าวไปบนเส้นทางนี้ด้วยเช่นกัน อินชาอัลลอฮ์ (หากพระผู้เป็นเจ้าทรงประสงค์)

 

 

สรุป :

 

       

มนุษย์สามารถไปถึงจุดสูงสุดของความสมบูรณ์ได้ด้วยการก้าวเดินไปบนเส้นทางแห่งพระผู้เป็น คำสอนและแบบแผนทั้งมวลของศาสนาแห่งพระผู้เป็นเจ้าถูกวางรากฐานไว้เพื่อพัฒนาการมนุษย์ให้ไปสู่ความสมบูรณ์

       

อิบาดะฮ์ (การเคารพภักดีและการนมัสการต่อพระผู้เป็นเจ้า) คือสิ่งที่จะทำให้มนุษย์ไปถึงยังสถานะตำแหน่งอันสูงส่งยิ่ง ดังเช่นที่ท่านศาสดาแห่งอิสลามได้ไปถึงยังตำแหน่งของความเป็นศาสนทูต (ริซาละฮ์) และขั้นสูงสุดของความสมบูรณ์ โดยผ่านหนทางของการอิบาดะฮ์ (การเคารพภักดี) และการมอบตนเป็นบ่าวอย่างแท้จริงต่อพระผู้เป็นเจ้า

       

มนุษย์ผู้สมบูรณ์ (อินซานุ้ลกามิล) มีคุณลักษณะเฉพาะจำนวนมาก ซึ่งสามารถกล่าวถึงบางส่วนได้ดังนี้คือ : ความอ่อนน้อมถ่อมตน ความอดทนอดกลั้นต่อบรรดาผู้โง่เขลา การอิบาดะฮ์ในยามดึกของกลางคืน การธำรงความเป็นสายกลางในการใช้จ่ายและความบริสุทธิ์ใจ (อิคลาศ) และความบริสุทธิ์ใจนั้นคือหนึ่งในระดับขั้นตอนที่สูงที่สุดของการพัฒนาสู่ความสมบูรณ์และการจาริกสู่พระผู้เป็นเจ้า

 

เชิงอรรถ :

(1) ฟัรฮังก์อะมีด, หน้าที่ 80

(2) อัลกุรอาน บทอันนัจญ์มุ โองการที่ 8-9

(3) อินซานุ้ลกามิล, ชะฮีดมุเฏาะฮ์ฮะรี, หน้าที่ 9

(4) วะซาอิลุชชีอะฮ์, เล่มที่ 3, หน้าที่ 53

(5) ซอฮีฟะฮ์ นูร, เล่มที่ 14, หน้าที่ 30

(6) สรุปจากเนื้อหาของซูเราะฮ์ (บท) อัลฟาติฮะฮ์

 (7) อัลกุรอาน บทอันนัจญ์มุ โองการที่ 63

(8) อัลกุรอาน บทอัลฟุรกอน โองการที่ 63

(9) ซีมอเย่ อินซาน กามิล, ญะอ์ฟัร ซุบฮานี, หน้าที่ 52, อ้างจากหนังสือ “หะยาตุ้ลหะยะวาน” เล่มที่ 2, หน้าที่ 68

(10) อัลกุรอาน อัลฟุรกอน โองการที่ 66

(11) บิฮารุลอันวาร, เล่มที่ 87, หน้าที่ 138

(12) อัลกุรอาน บทอัลฟุรกอน โองการที่ 67

(13) อัลกุรอาน บทอัลฟุรกอน โองการที่ 67

(14) อัลกุรอาน บทอัลฟุรกอน โองการที่ 68

(15) นะฮ์ญุลคิฏอบะฮ์, อะละมุลฮุดา คูราซานี, หน้าที่ 477

 

บทความโดย : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ

กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วย

ความคิดเห็นของผู้ใช้งานทั้งหลาย

ไม่่มีความคิดเห็น
*
*

เว็บไซต์ อิมาม อัลฮะซะนัยน์ (อลัยฮิมัสลาม)เพื่อคุณค่าและสารธรรมอิสลาม